เดอะสแตนดาร์ดปักธงตลาดไทย ปั้นโรงแรมหรูแฟลกชิปแห่งเอเชีย

เดอะสแตนดาร์ดปักธงตลาดไทย ปั้นโรงแรมหรูแฟลกชิปแห่งเอเชีย

  • 0 ตอบ
  • 84 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

hs8jai

  • *****
  • 2219
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




เดอะ สแตนดาร์ด เครือโรงแรมระดับโลก สยายปีกบุกตลาดไทย ผุด 2 แห่ง ชูเป็นโรงแรมแฟลกชิปของแบรนด์ เดอะ สแตนดาร์ดในเอเซีย ที่ตึกคิงเพาเวอร์ มหานคร กรุงเทพ และ ที่หัวหิน ตอบรับไทยจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของโลก ย้ำสถานการณ์ โควิดต้องดีขึ้นตามลำดับ ชี้โครงการต่างๆของรัฐบาลไทยช่วยกระตุ้นท่องเที่ยวได้ดี

นายอมาร์ ลัลวานี่ ซีอีโอ Standard International Management, LLCบริษัทแม่ของเครือโรงแรม The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) เปิดเผยว่า แม้ว่าในปัจจุบันนี้โลกเราจะมีความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยางหนักทั่วโลกและรวมทั้งในประเทศไทยด้วยนั้น แต่ภาพรวมการดำเนินงานของเครือโรงแรม The Standard ก็ยังคงสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่า 20% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ได้คาดการณ์เอาไว้ โดยมีค่าเฉลี่ยดัชนีการสร้างรายได้หรือ RGI ที่ระดับ 134 ในปี 2564 เมื่อเทียบกับที่ 122 ในปี 2562 ด้วยความแข็งแกร่งและกลยุทธ์การปรับตัวของเรา



ความแข็งแกร่งของแบรนด์ นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัวเลขยอดการจองตรงในโรงแรมในเครือ The Standard อยู่ระดับสูงตลอด โดยเพิ่มจากอัตรา 45% ก่อนโควิดระบาด มาสู่ระดับ 58% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสำหรับแบรนด์โรงแรมอิสระ

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มมองว่า ธุรกิจการท่องเที่ยว การเดินทาง โรงแรม และที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ยังคงต้องมีการเติบโตและเป็นสิ่งจำเป็นต่ไปในอนาคตแน่นอน และทุกอย่างจะฟื้นตัวขึ้นตามสถานการณ์ที่เหมาะสม แต่สิ่งที่ท้าทายของธุรกิจการท่องเที่่ยวก็คือ การดำเนินธุรกิจท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ดำเนินไปพร้อมกับเรื่องของสุขอนามัยที่เข้มงวด
นายอมาร์เสริมว่า แม้ในสภาพเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤติ The Standard สามารถขยายฐานธุรกิจเครือโรงแรมได้อย่างน่าพอใจในปีที่ผ่านมา “ปัจจุบัน เรามีโรงแรมทั้งหมด 17 แห่งที่เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ The Standard ,Bunkhouse (บังค์เฮ้าส์) และ The Peri Hotel (เดอะ เภรี โฮเทล) โดยในจำนวนนี้ 15 แห่งกลับมาเปิดให้บริการหลังเกิดโควิดระบาด และอีก 21 แห่งเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ นอกเหนือจากนี้มีอีกหลายแห่งอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ทำให้เราเป็นหนึ่งในแบรนด์ไลฟ์สไตล์อิสระชั้นนำของโลก”

“โควิดยังระบาดอยู่ แต่ก็มีบางประเทศที่เปิดท่องเที่ยวแล้วในภูมิภาคเอเชีย เช่่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ถือเป็นตลาดแรกๆที่มีการเปิดประเทศท่องเที่ยวแบบลดข้อจำกัดลงไปมากแล้ว ส่วนประเทศอินเดีย และออสเตรเลีย ก็ยังคงต้องรอสถานการณ์อีกต่อไป ส่วนตลาดประเทศไทยนั้นเมื่อสถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นบวกหรือดีขึ้น มั่นใจว่านักท่องเที่ยวยังต้องการเดินทางมาเที่ยวในไทยอีกแน่นอน เพราะประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่สำคัญ อีกทั้งสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการในตอนนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีช่วยสร้างความมั่นใจและกระตุ้นตลาดอีกทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์, สมุยพลัส ที่เริ่มไปแล้ว หรือ หัวหินรีชาร์จที่จะเริ่มเร็วๆนี้” นายอมาร์ กล่าว