คุณหรือใคร...ติดหล่ม ‘ลัทธิชาตินิยมวัคซีน’

คุณหรือใคร...ติดหล่ม ‘ลัทธิชาตินิยมวัคซีน’

  • 0 ตอบ
  • 70 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Ailie662

  • *****
  • 2858
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




หลายประเทศเป็นสังคมอุดมปัญญา มีเสรีภาพแสดงความคิดเห็น แต่ก็เป็นเส้นขั้นบางๆ กับสังคมอุดมปัญหา เพราะมีข้อมูลข่าวสารชนิดตัดตอน บิดเบือนข้อเท็จจริง นำมาปั่นเป็นกระแส ซึ่งไม่รวมถึงเฟคนิวส์ที่ป่วนสังคมอยู่ โดยเฉพาะในช่วงระบาดโควิด-19

อินเดีย ประเทศที่จัดว่ามีการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารเหล่านี้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แล้วยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19  อินเดียต้องเผชิญข้อกล่าวหาจากชาติตะวันตก ทั้งอังกฤษ และบราซิล ต่างมองว่า ประเทศนี้กำลังคลั่งไคล้ “ลัทธิชาตินิยมวัคซีน” 

เป็นที่รู้กันดีว่า อินเดีย ประเทศที่มีวิทยาการด้านการแพทย์และเวชภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ขณะนี้รับหน้าที่เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีผู้ผลิตวัคซีนหลัก 2 แห่ง คือสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (ซึ่งผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในประเทศและมีชื่อเรียกว่า โควิชีลด์) และภารัต ไบโอเทค (ซึ่งผลิตวัคซีนโควาซิน) สามารถผลิตวัคซีนรวมกันได้ประมาณ 90 ล้านโดสต่อเดือน ตามที่ระบุในรายงานของสำนักข่าวบีบีซี

การแพร่ระบาดโควิด-19 ในอินเดีย ถึงจุดพีคในเดือน พ.ค. และมีผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 2 แสนรายต่อวัน มาจนถึงขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันหลักหมื่น และมียอดสะสมรวม 33.1 ล้านราย 

เมื่อดูข้อมูลก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การผลิตวัคซีนโควิด-19 ส่วนใหญ่จะจัดส่งเพื่อระดมฉีดให้ประชาชนในประเทศ ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 7 ก.ย. 2564 พบว่า มีการแจกจ่ายวัคซีนแล้ว 685 ล้านโดส และมีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 159 ล้านคน

ขณะที่รัฐบาลอินเดีย ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า อินเดียไม่ได้ห้ามส่งออกวัคซีน และไม่ได้ปิดปากชาติตะวันตกที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง “ลัทธิชาตินิยมวัคซีน” ของอินเดียอยู่ตอนนี้ เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย กล่าวย้ำว่า การส่งออกวัคซีนจะดำเนินการโดยคำนึงถึงสถานการณ์ภายในประเทศ

ประเทศส่วนใหญ่ในโลกกำลังรับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสอง และระลอกสาม เนื่องจากสายพันธุ์เดลตาที่ร้ายแรงและหลบหลีกแอนติบอดีได้ดีเป็นตัวหนุนให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็น่าสงสัยว่า รัฐบาลอินเดียได้บอกโลกในประเด็นนี้เหมาะสมเพียงใด เพราะขณะนี้หลายประเทศวิจารณ์อินเดียอย่างหนักในเรื่อง “การกักตุนวัคซีน”

สื่ออินเดีย ชี้ว่า “อังกฤษ” ประเทศที่ฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนจนครบโดสแล้ว 43.5 ล้านคน และบราซิล ประเทศที่มีผู้ฉีดวัคซีนโดสแล้ว 66.7 ล้านคน และเพิ่งบอกยกเลิกวัคซีนซิโนแวคของจีนไป 12 ล้านโดส แต่กำลังเรียกร้องให้อินเดียส่งวัคซีนให้เพิ่ม โดยก่อนหน้านี้มีการจัดส่งวัคซีนให้แล้วตามกำหนด

กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า อินเดียได้จัดส่งวัคซีนไปแล้ว 64 ล้านโดสให้กับ 80 ประเทศ โดยในจำนวนนี้ 18 ล้านโดส ส่งผ่านโครงการโคแว็กซ์ของสหประชาชาติ

นี่เป็นเรื่องจริงที่อินเดียต้องเผชิญ และกระแสโซเชียลในประเทศก็ปั่นทับถมการดำเนินงานของรัฐบาลดูเละไม่เป็นท่า 

ขณะเดียวกัน ก็น่าแปลกใจกับกรณีสหรัฐทิ้งวัคซีนป้องกันโควิดไปแล้วอย่างน้อย 15.1 ล้านโดส มากกว่าที่เคยรับรู้กันและเป็นไปได้ว่ายังต่ำกว่าความเป็นจริง ขณะที่หลายประเทศยังไม่ได้ฉีด หรือถ้าฉีดก็น้อยมาก 

แต่บางคนก็แกล้งมองไม่เห็น แม้เรื่องนี้จะสุ่มเสี่ยงอยู่บนพื้นฐานกักตุนวัคซีนโควิด-19 ก็ตาม