ดีเดย์ 1 ก.ย. ซีพีจับมือพันธมิตร พร้อมภาคีเครือข่ายจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด

ดีเดย์ 1 ก.ย. ซีพีจับมือพันธมิตร พร้อมภาคีเครือข่ายจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด

  • 0 ตอบ
  • 66 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

deam205

  • *****
  • 2773
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




วันนี้ (1 ก.ย.) มหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงพยาบาลนพรัตนราชธานีและมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU)ในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ”ซีพี-รามคำแหง-นพรัตน์ราชธานี” ณ อาคารโรงยิมเนเซียม 1 ภายในมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพื่อช่วยดูแลรักษาในเบื้องต้นแก่ผู้ติดเชื้อที่รอเข้ารับการรักษาในระบบ ทั้งบุคลากรทางการศึกษา นักศึกษาและประชาชนทั่วไป และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ในการนี้มีศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธาน โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เข้าร่วม ณ อาคารพิริยราม มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ที่รอเข้ารับการรักษาในระบบจากโรงพยาบาล มหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงได้ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสำนักงานเขตบางกะปิ ในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 (Community Isolation: CI) เพื่อช่วยดูแลรักษาในเบื้องต้นแก่ผู้ติดเชื้อที่รอเข้ารับการรักษาในระบบ โดยใช้อาคารยิมเนเซียม 1 บริเวณใกล้ประตูทางออกด้านหลัง ม.ร. เป็นสถานที่ดำเนินการ ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 170 เตียง และหากมีความจำเป็นที่จะต้องขยายเพิ่มเติม ทางมหาวิทยาลัยและภาคีเครือข่ายพร้อมจะดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการปรับปรุงด้านสถานที่ และสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้มีความพร้อมในการเป็นศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ในการจัดทีมแพทย์- พยาบาล เพื่อดูแลรักษาและเฝ้าสังเกตอาการของผู้ติดเชื้อในศูนย์พักคอย โดยสำนักงานเขตบางกะปิ และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จะเป็นผู้พิจารณากลั่นกรอง รายชื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จะเข้าพักรักษาตัว ณ ศูนย์พักคอย มหาวิทยาลัยรามคำแหง

อธิการบดี ม.ร.กล่าวในตอนท้ายว่า ขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนในทุกด้านอย่างดียิ่งจนทำให้ศูนย์พักคอย มหาวิทยาลัยรามคำแหง แล้วเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมจะเปิดบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป โดย ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม จะเป็นประธานเปิดศูนย์พักคอย สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในวันที่ 1 กันยายน 2564 เวลา 08.30 น. พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเดชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่จะมาร่วมงานและเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์พักคอยฯ ด้วย

นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่ยังคงระบาดรุนแรงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันว่า โรงพยาบาลสนามมีไม่เพียงพอรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนมากขึ้นทุกวัน เกินศักยภาพที่โรงพยาบาลในระบบจะรับมือได้ โรงพยาบาลสนามจึงมีความสำคัญต่อการช่วยชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ดังนั้นเพื่อให้มีจำนวนเตียงเพียงพอที่จะรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงมีนโยบายสร้างโรงพยาบาลสนาม เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งวันนี้ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สร้างศูนย์พักคอย สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ขึ้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าศูนย์พักคอยแห่งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระด้านสาธารณสุขของประเทศ และขอขอบพระคุณ กรมการแพทย์ สำนักสวัสดิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย สำนักงานเขตบางกะปิ และทุกคนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเปลี่ยนโรงยิม 1 ของมหาวิทยาลัยรามคำแห่งนี้ให้เป็นศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งจะได้สร้างประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวมในยามที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในครั้งนี้

ด้านศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวในพิธีเปิดว่า สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโควิดที่ต้องการเตียง หรือสถานพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาเป็นการเร่งด่วน กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการให้ผู้ป่วยโควิดได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จึงได้สนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษา ร่วมกันบูรณาการโดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหาด้วยการจัดตั้งศูนย์พักคอยและโรงพยาบาลสนามขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยโควิด-19 มีสถานที่รองรับในการเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

“ขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้ความร่วมมือของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เครือเจริญโภคภัณฑ์ กรมการแพทย์ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตบางกะปิ ที่ให้ความสำคัญและร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ขึ้น เพื่อใช้เป็นสถานที่ให้ผู้ป่วยโควิดสึเขียว ซึ่งอยู่ระหว่างการรอส่งต่อโรงพยาบาลและใช้เป็นสถานที่สำหรับดูแลกลุ่มคนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษระหว่างรอเตียง และขอให้ทุกฝ่ายรวมพลังรวมใจมีความสามัคคีช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบ เพื่อยหุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ของสังคมส่วนรวมและประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความเจริญอย่างมั่นคง ยั่งยืนและสันติสุขสืบไป”