ผ่านพ้นวันปิดตลาดฤดูร้อนของวงการลูกหนัง การซื้อ-ขายที่แฟนๆ ตื่นเต้นมากสุด โดยเฉพาะกองเชียร์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการ ช่วงเย็นวันอังคารที่ 31 สิงหาคม ตามเวลาไทย คริสเตียโน โรนัลโด เจ้าของรางวัล “บัลลง ดอร์” 5 สมัย ย้ายจาก ยูเวนตุส กลับสู่ถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมเวลา 12 ปี นับตั้งแต่ถูกขายให้ รีล มาดริด
นอกเหนือจาก โรนัลโด วัย 36 ปี เป็นรายล่าสุด แวดวง อเมริกัน เกมส์ ยังมีซูเปอร์สตาร์ซึ่งเคยสร้างชื่อเสียงไว่กับแฟรนไชส์ กระทั่งเป็นที่รักของแฟนๆ วนลูปกลับสู่จุดเริ่มต้นของพวกเขา อาทิ เลอบรอน เจมส์ กับ อัลเลน ไอเวอร์สัน ของ บาสเกต. เอ็นบีเอ (NBA) หรือ แรนดี มอสส์ กับ ชาร์ลส วูดสัน แห่ง อเมริกันฟุต. เอ็นเอฟแอล (NFL) บางรายก็ประสบความสำเร็จ และบางรายก็หมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว
เริ่มกันด้วยลีก NBA ไอเวอร์สัน ซูเปอร์สตาร์ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส คว้ารางวัล รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์ 1996, ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP), แชมป์ทำคะแนน 4 สมัย ทว่าด้วยสถิติย่ำแย่ ชนะ 5 แพ้ 10 ช่วงเปิดฤดูกาล 2006-07 ทำให้เขาร้องขอเทรดไป เดนเวอร์ นักเก็ตส์ แต่ผลงานตกต่ำลงเรื่อยๆ ถูกโละให้ ดีทรอยต์ พิสตันส์ และ เมมฟิส กริซซ์ลีส์ ฤดูกาล 2008-09 กับ 2009-10 ตามลำดับ
“The Answer” ยกเลิกสัญญา เมมฟิส หลังลงเล่นแค่ 3 เกม เนื่องจากหัวเสียที่ไม่ได้เล่นตัวจริง จากนั้น 3 สัปดาห์ ไอเวอร์สัน เซ็นสัญญา ฟิลาเดลเฟีย 1 ปี กินค่าแรงขั้นต่ำของลีก และได้รับการ สแตนดิง โอเวชัน (ยืนปรบมือ) ต้อนรับ ในการลงเล่นเกมแรก วันที่ 7 ธ.ค. 2009 การคัมแบ็กของเขาสิ้นสุดลงแค่ วันที่ 22 ก.พ. 2010 เนื่องจากลูกสาวป่วยเป็นโรคคาวาซากิ ลงสนาม 25 เกม ซัดเฉลี่ย 13.9 แต้ม 3.0 รีบาวน์ด 6.2 แอสซิสต์
เลอบรอน รับใช้ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส นาน 7 ซีซัน หลังถูก ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส กวาดซีรีส์รอบชิงชนะเลิศ เขาประกาศย้ายไป ไมอามี ฮีต เนื่องจากมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า ปรากฏว่า เขากอดคอ ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช ฉลองแชมป์ด้วยกัน ปี 2012 กับ 2013 แล้วกลับมาที่คลีฟแลนด์ เดือนกรกฎาคม 2014 ด้วยความมุ่งมั่น จะพาแฟรนไชส์ในบ้านเกิดของตัวเอง (รัฐโอไฮโอ) เป็นแชมป์ NBA
“คิงเจมส์” ลั่นวาจาบนโต๊ะแถลงข่าว “ความผูกพันของผม กับ ฝั่งอีสานของรัฐโอไฮโอ ยิ่งใหญ่กว่าบาสเกต. ผมไม่ได้นึกถึงตรงนั้นเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนี้ผมรู้สึกแล้ว” ต่อมา “แคฟส์” เข้ารอบชิงชนะเลิศ NBA 4 ปีติดต่อกัน และสร้างปาฏิหาริย์ แซงชนะ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส 4-3 เกม คว้าแชมป์ปี 2016 ก่อนอำลาแฟรนไชส์ไป แอลเอ เลเกอร์ส ปี 2018
ขณะที่ฝั่ง NFL มอสส์ เล่นให้ มินเนโซตา ไวกิงส์ 7 ซีซัน ค่าเฉลี่ยต่อฤดูกาล รับ. 82 ครั้ง ระยะ 1,306 หลา 13 ทัชดาวน์ ถูกเมรดไป โอคแลนด์ เรดเดอร์ส เดือนมีนาคม 2005 แต่ผลงานตกต่ำอย่างน่าใจหาย “สลัดดำ” ชนะรวมกันแค่ 6 เกม ในยุคของ มอสส์ จึงถูกปล่อยให้ นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ ปี 2007 แล้วกลับสู่ฟอร์มเก่ง ทำ 50 ทัชดาวน์ จาก 52 เกม
ปี 2011 ไวกิงส์ ยอมเสียสิทธิ์ดราฟต์รอบ 3 ปีเดียวกัน ให้แก่ แพทริออตส์ เพื่อดึง มอสส์ กลับมาอยู่กับแฟรนไชส์ครั้งที่ 2 ทว่าการคัมแบ็กของเขาสิ้นสุดลงแค่ 4 เกม รับ. 13 ครั้ง ระยะ 174 หลา 2 ทัชดาวน์ หลังเกิดความขัดแย้งกับ แบรด ชิลเดรสส์ เฮดโค้ช ณ เวลานั้น และเพื่อนร่วมทีม เกมแพ้ นิว อิงแลนด์ ที่ยิลเลตต์ สเตเดียม เพราะไม่ยอมรับฟังความเห็นของตน ซึ่งเคยเป็นขุนพล “นักรบกู้ชาติ” มาก่อน
ปิดท้ายด้วย วูดสัน เป็นคอร์เนอร์แบ็ก (ตัวคุมปีก) ดาวรุ่งที่น่าจับตา ถูกดราฟต์รอบแรก ปี 1998 คว้ารางวัลรุกกีทีมรับแห่งปี เป็นกำลังสำคัญของ เรดเดอร์ส ชุดรองแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล ปี 2002 แต่ถูกอาการบาดเจ็บรบกวน ตลอด 3 ซีซัน จึงโดนปล่อยทิ้งแบบฟรีเอเจนต์ หลังจบฤดูกาล 2005 ย้ายไป กรีน เบย์ แพ็คเกอร์ส จรดปากกาเซ็นสัญญากัน 7 ปี
วูดสัน คืนฟอร์มสุดยอด หลังย้ายมา กรีน เบย์ คว้ารางวัลผู้เล่นทีมรับยอดเยี่ยม ปี 2009 และแชมป์ ซูเปอร์โบว์ล ในฤดูกาลต่อมา เปลี่ยนตำแหน่งจาก คอร์เนอร์แบ็ก เป็น เซฟตี กระทั่งได้รับการคัดเลือกติด ออล-โปร 4 สมัย จาก 7 ซีซัน ก่อนกลับมา เรดเดอร์ส ปี 2012 ไม่เพียงทำหน้าที่พี่เลี้ยงของ ดีเร็ก คาร์ ควอเตอร์แบ็ก กับ คาลิล แม็ค ไลน์แบ็คเกอร์ แต่ยังทำไป 10 อินเทอร์เซ็ปต์ และเก็บฟัมเบิล 7 ครั้ง แล้วรีไทร์หลังจบฤดูกาล 2015
