ยังคงน่าห่วง! อนามัยโลกเตือนสุดสะพรึง “ยุโรป” อาจเห็นตายกว่า 2 แสน

ยังคงน่าห่วง! อนามัยโลกเตือนสุดสะพรึง “ยุโรป” อาจเห็นตายกว่า 2 แสน

  • 0 ตอบ
  • 69 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

dsmol19

  • *****
  • 2466
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




เอเอฟพี – องค์การอนามัยโลก WHO ออกมาคาดการณ์ในวันนี้(30 ส.ค)ว่า ภายในวันที่ 1 ธ.ค ปลายปี ยุโรปอาจจะเห็นผู้เสียชีวิตเพิ่มจากโรคโควิด-19 ไม่ต่ำกว่า 236,000 คน

เอเอฟพีรายงานวันนี้(30 ส.ค)ว่า ประเทศต่างๆทั่วทั้งภูมิภาคได้เห็นอัตราการติดเชื้อเพิ่มหลังจากไวรัสเดลตายังคงระบาดอย่างต่อเนื่องในยุโรปโดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19

ชาติที่ยากจนมากกว่าโดยเฉพาะที่คาบสมุทร.ข่าน คอเคซัส และเอเชียกลางได้รับผลกระทบจากโควิด-19หนักที่สุดและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

“สัปดาห์ที่แล้วยอดเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 11% ในภูมิภาคโดยหนึ่งในการประเมินที่น่าเชื่อถือได้คาดว่าจะได้เห็นตัวเลขการเสียชีวิต 236,000 คนในทวีปยุโรปภายในวันที่ 1 ธ.ค” ผู้อำนวยการภูมิภาคยุโรปองค์การอนามัยโลก ฮานส์ คลุ๊ก( Hans Kluge) แถลงในวันจันทร์(30)

ซึ่งมาถึงเวลานี้ยุโรปมียอดการเสียชีวิตจากโควิด-19 อยู่ที่ 1.3 ล้านคน สมาชิก 53 ประเทศยุโรปขององค์การอนามัยโลก WHO พบว่ามี 33 ประเทศมีอัตราเพิ่มกว่า 10% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คลุกกล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นประเทศยากจน

อัตราการติดต่อภายในทวีปอยู่ในระดับสูงนั้นน่าวิตกโดยเฉพาะเกี่ยวกับอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19ต่ำในกลุ่มประชาชนที่มีความสำคัญมากกว่าในหลายประเทศ

คลุ๊กกล่าวอีกว่า ไวรัสเดลตาเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ต้องได้รับการตำหนิพร้อมไปกับการปลดล็อกอย่างมากจนเกินไปและการเพิ่มขึ้นในการท่องเที่ยว

คลุ๊กย้ำว่ามาตรการทางสังคมและสาธารณสุขที่ถูกผ่อนคลายในหลายพื้นที่ “การยอมรับวัคซีนทางสาธารณะถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก”

การออกมาเตือนล่าสุดเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันที่ WHO และยูนิเซฟก่อนหน้าในวันเดียวกันนั้นแนะนำให้กลุ่มครูอาจารย์ถูกจัดเป็นกลุ่มเป้าหมายลำดับต้นของการรับวัคซีนโควิด-19เพื่อจะทำให้โรงเรียนยังคงสามารถเปิดได้ตลอดช่วงการระบาด

นอกจากนี้หน่วยงานทั้งสองยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆแจกวัคซีนโควิด-19ให้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีที่โรคประจำตัวและทำให้เด็กกลุ่มนี้มีความเสี่ยงทางโควิด-19

และยังเรียกร้องให้โรงเรียนทำการปรับปรุงเพื่อป้องกันการระบาดในโรงเรียนเป็นต้นว่า ระบบระบายอากาศ จำนวนนักเรียนต่อชั้นลดลง มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและต้องตรวจหาไวรัสโควิด-19ให้กับนักเรียนและเจ้าหน้าที่โรงเรียนเป็นระยะ