บริษัท
ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาคเอกชน เดินหน้าช่วย เกษตรกรไทย ลดผลกระทบจากวิกฤต การแพร่ระบาดของ COVID-19 ภายใต้โครงการเกษตรกรแฮปปี้ ด้วยการรับขนส่งผลไม้ผ่านบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทย ในอัตราค่าบริการพิเศษ และเปิดพื้นที่ขายผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าขนส่งและเพิ่มช่องทางการขายให้เกษตรกร
โดยสามารถจำหน่ายได้ทั้งช่องทางออนไลน์เว็บไซต์ thailandpostmart.com และที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงให้สิทธิ์เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ฝากส่งผลไม้ 5 ประเภท ได้แก่ มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง และทุเรียน ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ
นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่มีการ แพร่ระบาดของ COVID-19 ไปรษณีย์ไทยได้เดินหน้าผนึกกำลังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน ในการช่วยบรรเทาผลกระทบแก่เกษตรกรไทยด้วยการลกต้นทุนค่าขนส่งให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ต้องการระบายผลผลิตให้ทันตามฤดูกาลมาอย่างต่อเนื่อง
โดยได้จัดตั้งโครงการ เกษตรกรแฮปปี้ เปิดช่องทางให้เกษตรกรสามารถนำผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ มังคุด ลำไย และ เงาะโรงเรียน มาจำหน่ายผ่าน เว็บไซต์ thailandpostmart.com และที่ทำการไปรษณีย์ ในราคาพิเศษ รวมถึงลดค่าบริการส่งด่วนทั่วไทย (EMS) สูงถึง 20% ในช่วงเทศกาลผลไม้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 และปรับอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายในราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 3 กิโลกรัมแรก เพียง 50 บาท ส่งได้สูงสุดถึง 20 กิโลกรัม เพื่อช่วยเกษตรกรและประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง
นายดนันท์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังได้เดินหน้าโครงการบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 ร่วมกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้เกษตรกรไทยที่เป็นสมาชิกของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ฝากส่งผลไม้ 5 ประเภท ได้แก่ มังคุด เงาะ ลำไย ลองกอง และทุเรียน ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม ซึ่งในช่วงฤดูกาลจำหน่ายลำไยที่กำลังจะมาถึงนี้ ไปรษณีย์ไทยเปิดให้บริการรับฝากผลไม้ผ่านการหุ้มห่อและใส่บรรจุภัณฑ์ได้ตามปกติ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ได้ทั้งแบบกล่องและตะกร้าตามที่ไปรษณีย์ไทยวางจำหน่าย และจัดส่งได้ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศจนถึงสิ้นปี 2564
ในการก้าวสู่ปีที่ 19 ขององค์กร ไปรษณีย์ไทยยังคงยึดมั่นและเป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรไทยได้ฝ่าวิกฤต COVID-19 อย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งจะเดินหน้าสนับสนุนภาครัฐและเอกชนในการเข้าถึงความช่วยเหลือในทุกภารกิจสำคัญ โดยเฉพาะภาคสังคมและสาธารณสุข อย่างเช่น โครงการ "ส่งความห่วยใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19" ที่ช่วยขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับบุคลากรด่านหน้าเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เพื่อส่งพลังความห่วงใยและเคียงข้างคนไทยให้ผ่านสถานการณ์วิกฤต COVID-19 นี้ ไปด้วยกัน นายดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย