“แอสเซทไวส์” เดินหน้าแนวคิด “GrowGreen” ผนึกกำลัง Little Big Green เปิดตัวโครงการ “
แยกBinกัน” วิธีการคัดแยกขยะแบบใหม่ เพื่อให้ลูกบ้านเข้าใจ และสามารถคัดแยกขยะได้ง่ายและถูกวิธี นำร่องที่โครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 71 (Atmoz Ladprao 71) เป็นแห่งแรกก่อน มีแผนกระจายไปยังโครงการอื่นๆต่อไป
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ออกแบบเพื่อความสุขในการอยู่อาศัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ขยะของประเทศไทย โดยข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า ในปี 2563 มีปริมาณขยะชุมชน 27.35 ล้านตัน ขยะที่กำจัดถูกต้อง 11.19 ล้านตัน และขยะที่กำจัดไม่ถูกต้อง 4.23 ล้านตัน โดยเฉพาะหลังจากมีการระบาดของ Covid-19 ที่คนส่วนใหญ่ต้องอยู่ในที่พักอาศัยมากขึ้น และหลายคนยังทิ้งขยะแบบเหมารวม เนื่องจากอาจจะยังไม่เข้าใจการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี รวมถึงความสะดวกในการแยกขยะที่ยังมีไม่มากนัก ซึ่งในทางกลับกัน หากสามารถแยกขยะได้ถูกวิธี จะช่วยเพิ่มโอกาสในการนำขยะบางชนิดมารีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่มากขึ้น
“แอสเซทไวส์ เล็งเห็นความสำคัญและใส่ใจในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “GrowGreen” ซึ่งเป็นแนวคิดองค์กรที่เรากำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ จึงได้ร่วมกับ Little Big Green ซึ่งเป็นการรวมตัวของคน ที่มีไลฟ์สไตล์กรีนๆ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างคอมมูนิตี้เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์กรีนๆภายใต้คอนเซปต์ “AS GREEN AS YOU CAN” จัดทำ โครงการ “แยกBinกัน” ซึ่งเป็นวิธีการคัดแยกขยะ ด้วยการเรียกขยะแบบใหม่ ที่ช่วยให้ลูกบ้านเข้าใจและสามารถคัดแยกขยะได้อย่างถูกวิธีมากขึ้น”
สำหรับโครงการ “แยกBinกัน” มีแนวคิดสำคัญคือการเปลี่ยนชื่อถังขยะเพื่อช่วยให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม และสามารถคัดแยกขยะโดยคำนึงถึงการนำไปรีไซเคิลต่อได้ง่ายขึ้น โดยแอสเซทไวส์ได้เริ่มใช้วิธีการแยกแบบใหม่นี้ กับโครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 71 (Atmoz Ladprao 71) เป็นที่แรก ด้วยการจัดสรรถุงขยะที่แบ่งออกเป็นสีตามถังขยะแจกให้ลูกบ้านฟรี เพื่อให้เกิดการแยกขยะตั้งแต่ในห้องพัก และสามารถนำขยะมาทิ้งที่ถังขยะตามประเภทได้อย่างง่ายดายตามสีถุง
ทั้งนี้ แอสเซทไวส์ได้เปลี่ยนชื่อและสีถังขยะประเภทต่างๆตามวิธีการแยกขยะแบบใหม่ได้แก่ 1.ถังขยะเศษอาหาร คือถังขยะสีเขียว สำหรับขยะที่เป็นเศษอาหารเท่านั้น ไม่รวมภาชนะที่บรรจุ ซึ่งขยะเหล่านี้จะสามารถนำไปต่อยอดในการทำปุ๋ย
2.ถังขยะแห้งสะอาด คือถังขยะสีเหลือง สำหรับขยะประเภทแห้งสะอาดเช่น ขวดน้ำพลาสติก กระดาษ หรือขวดแก้ว โดยต้องทำให้แห้งสะอาดก่อนทิ้ง เพื่อไม่ให้ขยะในถังเน่าเสีย สามารถนำไปรีไซเคิลได้
3.ถังขยะเลอะเปื้อน คือถังขยะสีฟ้า สำหรับขยะที่เปรอะเปื้อน และไม่สามารถทำให้สะอาดได้ เช่นภาชนะบรรจุอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขยะที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และจะถูกส่งไปสู่กระบวนการจัดการขยะต่อไป
4.ถังขยะแมสก์ + ห้องน้ำ คือถังขยะสีแดง สำหรับขยะที่ติดเชื้อ หรือเสี่ยงติดเชื้อ รวมถึงขยะในห้องน้ำ อาทิ หน้ากากอนามัย หรือกระดาษชำระ เพื่อช่วยให้จัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถป้องกันการติดเชื้อในกระบวนการเก็บ และกำจัดขยะได้มากขึ้น
นายกรมเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากที่เริ่มดำเนินการ เราพบว่า โครงการแยก Bin กัน ได้รับผลการตอบรับที่ดีทั้งจากนิติบุคคล ลูกบ้าน รวมถึงแม่บ้านภายในโครงการ มีการคัดแยกขยะที่มีคุณภาพมากขึ้นจากเดิม ซึ่งในอนาคตแอสเซทไวส์ยังมีแผนที่จะนำโครงการนี้ไปใช้ในทุกโครงการ เพื่อให้เกิด Waste Management ที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนสูงสุด เพราะเราเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมแวดล้อมจะดีขึ้นได้ ต้องมาจากการร่วมมือกันของทุกคน และเราหวังว่าโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น”