ตลท.จัดงาน Thailand Focus 2021 ชูศักยภาพตลาดทุนไทย ก้าวสู่ “next normal”

ตลท.จัดงาน Thailand Focus 2021 ชูศักยภาพตลาดทุนไทย ก้าวสู่ “next normal”

  • 0 ตอบ
  • 80 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Fern751

  • *****
  • 2936
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า งาน Thailand Focus ในปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 15 ภายใต้แนวคิด “Thriving in the Next Normal” โดยนำเสนอศักยภาพ ความแข็งแกร่ง และความพร้อมของตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยภายใต้วิถีธุรกิจยุคใหม่ แม้ขณะนี้ทั่วโลกยังเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ตลาดทุนไทยยังเดินหน้าก้าวผ่านสถานการณ์ความไม่แน่นอน

ทั้งนี้ เกือบ 2 ปีที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส ตลาดทุนไทยได้พิสูจน์ความคงทนด้วยการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดหลายระลอก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยังคงประสบความสำเร็จ โดย SET เป็นหนึ่งในแหล่ง IPO ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในปี 2020 มูลค่าของ IPO ของเราทะลุ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการจัดอันดับใน 10 อันดับแรกของโลก 5 อันดับแรกของเอเชีย และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีการนำเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกอย่างคึกคัก โดยมูลค่าหุ้นที่นำออกมาเสนอขายพุ่งขึ้นจนถึงระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว

ขณะที่ SET เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสุดในบรรดาตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียนด้วยกัน มูลค่าการซื้อขายต่อวันพุ่งขึ้นมากกว่าสามพันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ จากเดิม 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐของปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากฐานของผู้ลงทุนที่มีความหลากหลายของตลาดหลักทรัพย์ไทย และมีการจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นของบริษัทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวนไม่น้อยเป็นผู้นำในการดำเนินนโยบายพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้รับรางวัลและคำชมเชยหลากหลาย บริษัทที่จดทะเบียนใน SET นั้นได้รับเลือกให้เข้าไปเป็นปัจจัยหนึ่งในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) นับเป็นจำนวนสูงสุดในอาเซียน และเมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ในบรรดาประเทศอาเซียนที่สามารถบรรลุ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ของสหประชาชาติ (UN SDGs)

ทั้งนี้ SET ได้มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นไปสู่ “next normal” หรือยุคหลังการระบาดของโควิด-19 โดยการรับเอาเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ เข้ามาใช้ รวมทั้งเปิดให้ผู้ลงทุนสามารถเชื่อมโยงได้กับตลาดทุนระดับโลกต่างๆ มากขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในด้านต่อไปนี้

สำหรับแพลตฟอร์มข้อมูลการพัฒนาแบบยั่งยืน (ESG data platform) SET ได้พัฒนาแพลตฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลออนไลน์ ซึ่งมีการจัดสร้างรูปแบบข้อมูลทั้งหลายอยู่เพื่อแสดงและเปรียบเทียบข้อมูลด้านความยั่งยืนสำหรับนักลงทุนและผู้ใช้อื่นๆ อันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่การเปิดเผยข้อของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ด้านแพลตฟอร์ม Golbal Product หรือ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับตลาดทุนไทย เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงตลาดทุนโลก SET ได้พัฒนาการออกผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มการซื้อขายเพื่อเชื่อมโยงโอกาสการลงทุนในตลาดนอกประเทศโดยผ่านกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) และตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt หรือ DR) แพลตฟอร์มนี้จะทำให้ทั้งตัวกลางและลูกค้าสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศโดยผ่านตลาดภายในประเทศ

สำหรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล SET จะเดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในตลาดหลักทรัพย์ด้วยการเพิ่มบริการใหม่ๆ เราได้ร่วมมือกับผู้เล่นรายสำคัญเพื่อสามารถให้บริการได้ดีกว่าเดิมโดยผ่านบริการออนไลน์ อย่างเช่น การประชุมผู้ถือหุ้น ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-AGM การออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นออนไลน์ หรือ e-proxy voting และการทำความรู้จักลูกค้าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC ในกระบวนการนี้ SET จะนำเอาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในปี 2022 ซึ่งจะทำให้บรรดาธุรกิจใหม่และนักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนทางเลือกหลากประเภท

อย่างไรก็ดี 3 ยุทธศาสตร์หลักที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใช้เพื่อต่อยอดความสำเร็จของปัจจุบัน คือ การดำเนินธุรกิจและการลงทุนแบบยั่งยืน การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และการเชื่อมโยงในประเทศเข้ากับภูมิภาคและระดับโลก