IoT บูมชัด รับเทรนด์ขนส่งสินค้าต้องควบคุมอุณหภูมิ

IoT บูมชัด รับเทรนด์ขนส่งสินค้าต้องควบคุมอุณหภูมิ

  • 0 ตอบ
  • 91 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Prichas

  • *****
  • 2104
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




นายปวิณ วรพฤกษ์ CEO บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำด้านไอโอทีโซลูชันครบวงจร เปิดเผยว่า จากข้อมูลของ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ ในปี 2562 ระบุว่า การขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) จากตัวเลขประมาณการของประเทศไทย มีมูลค่าราว 2.6 หมื่นล้านบาท หรือมีสัดส่วนประมาณ 5% ของตลาดโลจิสติกส์ทั้งหมด

“ความต้องการใช้บริการ Cold Chain Logistics มีแนวโน้มเติบโต 8% CAGR (Compound Average Growth Rate) ในปี 2562 - 2565”

ปัจจุบัน Cold Chain Logistics เข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคการขนส่ง โดยทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อัจฉริยะ เพื่อควบคุมอุณหภูมิห้องเย็น หรือตู้แช่สินค้า ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งของรถขนส่งให้เหมาะสมกับอาหารและวัตถุดิบแต่ละประเภท ล็อกอุณหภูมิเพื่อให้ความเย็นคงที่ในจุดที่เหมาะสมตลอดกระบวนการ ตั้งแต่สายการผลิต การขนส่ง และการวางจำหน่าย ไปถึงมือผู้รับปลายทางในอุตสาหกรรมค้าปลีก หรือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจนถึงมือผู้บริโภค

ขณะที่ประเทศไทยมีการวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2560-2564) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี โดยมุ่งให้ความสำคัญกับการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) เพื่อยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานของภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมให้ได้มาตรฐาน รวมถึงพัฒนาระบบโซ่ความเย็น (Cold Chain System) เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งกระบวนการ ช่วยลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่การผลิต และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

ติงส์ ออน เน็ต จึงพยายามโปรโมทไอโอทีโซลูชันตรวจจับอุณหภูมิและความชื้น ซึ่งสามารถตรวจวัดอุณหภูมิได้ในช่วงตั้งแต่ -40 องศา ถึง 125 องศา ตรวจวัดความชื้นได้ตั้งแต่ระดับ 0-100% มีประสิทธิภาพและความแม่นยำเพื่อตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น บอกค่าได้อย่างละเอียดในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน สามารถแจ้งเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติได้ทันท่วงที มีระบบจัดเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างปลอดภัย ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับพัฒนาการให้บริการขนส่งต่อไปได้
“การทำงานของ Cold Chain Logistics นอกจากจะช่วยให้รถขนส่งสามารถล็อกอุณหภูมิในห้องเย็นให้คงที่และเหมาะสมกับประเภทของสินค้าจากต้นทางถึงปลายทาง ยังช่วยแก้ปัญหา Food Waste อันเกิดจากกระบวนการขนส่งที่ผิดพลาด ขาดการควบคุมอุณหภูมิที่ดีพอ อันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วัตถุดิบหรืออาหารเกิดการเน่าเสียหรือเสื่อมคุณภาพก่อนถึงมือผู้รับ” ติงส์ ออน เน็ต อธิบาย



ในกรณีขนส่งข้ามประเทศ โซลูชันควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอัจฉริยะนี้จะทำงานบนโครงข่ายซิกฟอกส์ (Sigfox) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ LPWAN ที่มีเครือข่ายครอบคลุม 72 ประเทศทั่วโลก ผู้ประกอบการสามารถตรวจวัดค่าอุณหภูมิและความชื้นจากที่ใดก็ได้ เมื่อใดก็ได้ ตามต้องการผ่านการแสดงผลบนมือถือ แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ ขณะที่ตัวเซ็นเซอร์อัจฉริยะมีขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการใช้งาน ไร้สาย ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินระบบสายไฟ และถูกออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำ แบตเตอรี่สามารถชาร์จซ้ำได้ อายุการใช้งานนานหลายปี จึงช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการได้

จุดนี้ ติงส์ ออน เน็ตย้ำว่าไอโอทีโซลูชันตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นของบริษัทได้รับการรับรองให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร โรงพยาบาล เวชภัณฑ์ และธุรกิจได้หลากหลาย ทั้งในโรงเรือน พื้นที่เกษตร ฟาร์มปศุสัตว์ บนตู้ขนส่งสินค้า คลังสินค้า ชั้นวางสินค้าในห้างสรรพสินค้า การเก็บรักษาเวชภัณฑ์ หรือแม้แต่ในห้องเย็นของร้านอาหาร การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้คงระดับความเย็นเพื่อรักษาความสด (Fresh) สำหรับอาหาร และผลิตภัณฑ์แช่เย็น (Cool) หรือแช่แข็ง (Freeze)

นอกจากไอโอทีโซลูชันสำหรับตรวจจับอุณหภูมิและความชื้นแล้ว ติงส์ ออน เน็ต ยังมีเทคโนโลยีครบวงจรสำหรับติดตามรถขนส่ง IoT Solution Asset Tracking โซลูชันติดตามทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ด้วยอุปกรณ์ติดตามแบบไร้สาย ติดตั้งและบำรุงรักษาง่าย ประหยัดพลังงาน แบตเตอรี่อายุใช้งานยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จ สามารถระบุพิกัดและตำแหน่งของรถห้องเย็น ตู้คอนเทนเนอร์ รวมทั้งอุปกรณ์ส่วนควบในการขนส่ง เช่น พาเลท พัสดุ หรือรถเข็น ได้อย่างแม่นยำ และมีความเสถียร ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับคลังสินค้าและยานพาหนะห้องเย็น ไร้ปัญหาการโดนกวนสัญญาณด้วยจุดเด่นของอุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะที่สามารถส่งสัญญาณได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ Sigfox Connectivity, GPS, Wi-Fi และ Bluetooth

ขณะเดียวกัน จุดเด่นของ Massive IoT ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT จำนวนมากได้พร้อมๆ กัน จึงช่วยให้ระบบทำงานอย่างมีเสถียรภาพ รวดเร็ว แม่นยำ สามารถติดตามและรายงานข้อมูลการทำงานแบบรอบด้าน รวมถึงความผิดปกติต่างๆ ของยานพาหนะขนส่งจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้ เช่น เมื่อรถขนส่งวิ่งออกนอกขอบเขตพื้นที่ที่กำหนด ระบบจะแจ้งเตือนไปยัง application ที่ถูกกำหนด ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลที่ได้มาประเมินวิเคราะห์และสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับห่วงโซ่ของธุรกิจ

โซลูชันไอโอทีจึงเป็นเทคโนโลยีเหนือชั้นที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพธุรกิจขนส่งอาหาร ทั้งแบบสด แปรรูป แช่เย็นและแช่แข็ง ช่วยให้ผู้บริการขนส่งสามารถบริหารจัดการซัพพลายเชนแบบครบวงจร.