โควิดฉุดยอดตั้งธุรกิจใหม่เดือนก.ค.ลด 0.11% 

โควิดฉุดยอดตั้งธุรกิจใหม่เดือนก.ค.ลด 0.11% 

  • 0 ตอบ
  • 74 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Jessicas

  • *****
  • 2373
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผย ว่า  เดือนก.ค. 2564 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 5,661 ราย ลดลง 0.11%  เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ก่อน  และลดลง 7% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิ.ย. 2564  ที่มีจำนวน 6,093 รายหรือ ลดลง 7% โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 13,543.18 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึง คนโดยสาร  

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,140 ราย เทียบกับมิ.ย.2564 เพิ่ม 9% และเทียบกับก.ค.2563 ลดลง 10% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 4,152.42 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
 

นายทศพล กล่าวว่า สำหรับยอดรวมธุรกิจตั้งใหม่ในช่วง 7 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ค.) มีจำนวน 46,683 ราย เพิ่มขึ้น 20% ทุนจดทะเบียน 146,751.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ส่วนธุรกิจเลิกกิจการ 6,070 ราย ลดลง 19% ทุนจดทะเบียน 34,611.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% 

สาเหตุที่ทำให้การจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ และจดทะเบียนเลิกธุรกิจเพิ่มขึ้นนั้น มาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด – 19 ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การหยุดการก่อสร้าง การงดรับประทานอาหารในร้านอาหาร และมาตรการล็อคดาวน์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2564  

โดยในส่วนของการการลดลงของจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนก.ค.นั้น พบว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในแต่ละภาคธุรกิจนั้น ส่วนใหญ่มีแนวโน้ม ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป ลดลง 56 ราย คิดเป็น 9% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 61 ราย คิดเป็น 20% และธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร ลดลง 9 ราย คิดเป็น 4%  ซึ่งแนวโน้มที่ลดลงดังกล่าว เป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย ในเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งอยู่ที่ 41.4 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าถึง 10% ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจที่มีการชะลอตัวเพื่อติดตามสถานการณ์อยู่ในขณะนี้  

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เริ่มลดลง และจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในประเทศที่เพียงพอจะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่นที่ดีในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งการฟื้นตัวของการส่งออก และมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างการพิจารณา จะเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง