ตัวแรก!สหรัฐฯอนุมัติวัคซีนโควิดไฟเซอร์เต็มรูปแบบ ไบเดนชูก้าวสำคัญ-เร้าเอกชนบังคับฉีด

ตัวแรก!สหรัฐฯอนุมัติวัคซีนโควิดไฟเซอร์เต็มรูปแบบ ไบเดนชูก้าวสำคัญ-เร้าเอกชนบังคับฉีด

  • 0 ตอบ
  • 73 อ่าน

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

hs8jai

  • *****
  • 2219
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบยาของสหรัฐฯในวันจันทร์(23ส.ค.) อนุมัติใช้เต็มรูปแบบวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทค นับเป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับอนุมัติเต็มรูปแบบจากสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ(เอฟดีเอ) กระตุ้นให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกมาเร่งเร้ารอบใหม่ให้คนที่ยังคลางแคลงใจรีบเข้ารับวัคซีน ในความพยายามต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ยังคงระบาดไม่หยุด

ก่อนหน้านี้ เอฟดีเอ อนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินวัคซีน 2 เข็มของไฟเซอร์/ไบออนเทค ในเดือนตุลาคม และเมื่อวันจันทร์(23ส.ค.) ได้อนุมัติใช้เต็มรูปแบบสำหรับบุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไป บนพื้นฐานของข้อมูลอัพเดทจากการทดลองทางคลินิกและทบทวนการผลิตของทางบริษัท เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแสดงความหวังว่าความเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะช่วยโน้มน้าวชาวอเมริกันชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเชื่อมั่นว่าวัคซีนของไฟเซอร์นั้นมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

อเมริกันชนบางส่วนยังคงมีความคลางแคลงในต่อวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มคนหัวอนุรักษ์นิยม และจากข้อมูลพบว่าเคสโควิด-19 อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก เพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ต่างๆของสหรัฐฯที่มีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ

ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวที่ทำเนียบขาว เรียกการอนุมัติของเอฟดีเอ ว่าเป็น "ช่วงเวลาที่สำคัญของเราในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่" และเร่งเร้าภาคเอกชนบงคับพนักงานฉีดวัคซีนมากขึ้น "ถ้าคุณเป็นหนึ่งในอเมริกันชนหลายล้านคนที่เคยบอกว่าจะไม่ฉีดวัคซีนจนกว่ามันจะได้รับการอนุมัติเต็มรูปแบบและขั้นสุดท้ายจากเอฟดีเอเสียก่อน ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้ว มันถึงเวลาที่คุณจะเข้ารับวัคซีนแล้ว ฉีดมันวันนี้เลย อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่า"

เพนตากอนระบุว่าพวกเขากำลังเตรียมการสำหรับบังคับบุคลากรทางทหารฉีดวัคซีน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯคาดหมายด้วยว่าความเคลื่อนไหวของเอฟดีเอจะกระตุ้นให้รัฐต่างๆและรัฐบาลท้องถิ่น เช่นเดียวกับนายจ้างเอกชน บังคับฉีดวัคซีนกันมากขึ้น โดยนิวยอร์กซิตีบอกว่าจะบังคับครูโรงเรียนรัฐฉีดวัคซีน ส่วนนิวเจอร์ซีย์ระบุลูกจ้างขอรัฐทุกคนต้องฉีดวัคซีนภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม ไม่อย่างนั้นก็ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นประจำ

"ในขณะที่ประชาชนหลายล้านคนเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ด้วยความปลอดภัยไปแล้ว เราตระหนักว่าสำหรับบางคน การอนุัติวัคซีนเต็มรูปแบบของทางเอฟดีเอ เวลานี้อาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการเข้ารับวัคซีน" จาเน็ต วู้ดค็อค รักษาการผู้อำนวยการเอฟดีเอระบุ

เวลานี้มีประชาชนในสหรัฐฯแล้วมากกว่า 204 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์

เอฟดีเออนุมัติขยายระยะเวลาเก็บรักษาวัคซีนไฟเซอร์จาก 6 เดือนเป็น 9 เดือน พร้อมยืนยันว่าวัคซีนเพิ่มความเสี่ยงหัวใจอักเสบ โดยเฉพาะในคนหนุ่มสาวในไม่กี่สัปดาห์หลังจากเข้ารับวัคซีนเข็ม2

การอนุมัติใช้เต็มรูปแบบ ช่วยให้พวกแพทย์ดำเนินการได้ง่ายขึ้น ในการจ่ายวัคซีนเข็ม 3 ของไฟเซอร์นอกข้อบ่งใช้(off-label) สำหรับบุคคลที่อาจจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากโควิด-19 เพิ่มเติม

หุ้นของไฟเซอร์ปิดบวกราวๆ 2.5% ส่วนไบออนเทคพุ่งขึ้นมากกว่า 9.5%

วัคซีนตัวอื่นอีก 2 ตัวที่ได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ ประกอบด้วยของโมเดอร์นา อิงค์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แต่ทั้ง 2 ยังไม่ได้รับอนุมัติใช้เต็มรูปแบบจากเอฟดีเอ

เอฟดีเออนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินวัคซีนของไฟเซอร์สำหรับบุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไปในเดือนตุลาคม ก่อนที่จะอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินเพิ่มเติมสำหรับบุคคลอายุ 12 ปีขึ้นไปในเดือนพฤษภาคม

ในเรื่องนี้ทางไฟเซอร์และไบออนเทคเปิดเผยว่าพวกเขามีแผนอนุมัติใช้เต็มรูปแบบสำหรับเด็กอายุ 12-15 ปี เร็วที่สุดเท่าที่ข้อมูลที่จำเป็นปรากฎออกมา

วู้ดค็อค บอกว่าที่เอฟดีเอยังไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีในตอนนี้ ก็เพราะจำเป็นต้องมีคำรับประกันก่อนว่ามันมีความปลอดภัยสำหรับเด็กกลุ่มนี้ "มันจะกลายเป็นความกังวลใหญ่หลวง หากฉีดวัคซีนแก่เด็ก เพราะว่าเรายังไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจง"

คาดหมายว่าไฟเซอร์จะยื่นข้อมูลในฤดูใบไม่ร่วง(ปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนธันวาคม) สำหรับสนับสนุนการขออนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินกับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี บนพื้นฐานลดปริมาณวัคซีนลง

สหรัฐฯรายงานพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก จนถึงตอนนี้พบผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 625,000 ราย ในขณะที่ค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาพุ่งแตะระดับมากกว่า 600 คนต่อวัน

จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) พบว่าอเมริกันชนอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข้าฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็มคิดเป็นสัดส่วนถึง 71% และ 60.2% ฉีดวัคซีนครบแล้ว

แต่หากคิดตามประชากรทั้งหมด ซึ่งนับรวมเด็กอายุ 11 ปีลงไป ที่ยังไม่ได้รับอนุมัติฉีดวัคซีน พบว่าสัดส่วนอเมริกันชนที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็มจะลดลงมาเหลือ 60.7% และฉีดวัคซีนครบแล้วเหลือ 51.1%

อัลเบิร์ต บูร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์ระบุในถ้อยแถลงว่าการอนุมัติของเอฟดีเอ "เป็นเครื่องยืนยันข้อมูลประสิทธิภาพและความปลอดภัยวัคซีนของเรา ในช่วงเวลาที่มันมีความจำเป็นเร่งด่วน"

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม เอฟดีเออนุมัติฉีดวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นาเข็ม 3 แก่กลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นวัคซีนของไฟเซอร์ยังไม่ได้รับอนุมัติใช้ในประชาชนทั่วไปในฐานะเข็มกระตุ้น

(ที่มารอยเตอร์)