'นิชิโนะ' เปิดใจครั้งแรกผ่านจดหมายเปิดผนึก หลังแยกทางทัพ 'ช้างศึก'

'นิชิโนะ' เปิดใจครั้งแรกผ่านจดหมายเปิดผนึก หลังแยกทางทัพ 'ช้างศึก'

  • 0 ตอบ
  • 73 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

deam205

  • *****
  • 2773
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




อากิระ นิชิโนะ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ทำจดหมายเปิดผนึก แสดงความขอบคุณ และเผยความรู้สึกถึงทุกๆสิ่งที่เคยผ่านช่วงเวลาการทำงานกับ "ช้างศึก"

ก่อนหน้านี้ สมาคมกีฬาฟุต.แห่งประเทศไทยฯ ประกาศยกเลิกสัญญากับ อากิระ นิชิโนะ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังพาทีมทำผลงานล้มเหลวในฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

ล่าสุดยอดเทรนเนอร์จากแดนอาทิตย์อุทัยเขียนจดหมายเปิดผนึกบอกเล่าถึงความรู้สึกต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย

เรียน ครอบครัวฟุต.ไทยทุกท่าน
สวัสดีครับ

หลังจากจบการแข่งรอบคัดเลือกที่ดูไบ เดิมที ผมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เลย แต่เนื่องจากมีธุระ จึงขอเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่นชั่วคราวก่อน ซึ่งตอนนี้ หลังจากกักตัว ASQ ผมกลับมาพักอยู่ในกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว

ก่อนอื่น หลังจากที่ผมไปรายงานสรุปผลการทำงานให้กับ FA แล้ว ผมจะต้องแถลงข่าว และรายงานสรุปผลการทำงานให้กับแฟน. และผู้สนับสนุนทุกท่านทราบ แต่เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 จึงยังไม่สามารถทำได้ ต้องขอโทษด้วยครับ

ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่การเข้าแคมป์ฝึกซ้อม รวมไปถึงการแข่งขันฟุต.โลก รอบคัดเลือก ที่ดูไบ ในครั้งนี้ ไม่สามารถทำตามความคาดหวังของแฟน.ชาวไทยทุกคนได้

แต่ผู้ที่รู้สึกแย่ และหนักหน่วงมากที่สุด คือนักฟุต.ทุกคน หลังจากที่ได้พักเป็นเวลา 1 เดือน การเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมราบรื่น และทุกคนอยู่ในสภาพดี แต่เนื่องจากมีผู้ติดโควิด-19 ทำให้มีความจำเป็นต้องกักตัว 2 สัปดาห์ จึงไม่สามารถฝึกซ้อมเพื่อคัดเลือกนักเตะได้ และต้องพานักเตะทั้ง 42 คนไปยูเออีด้วยกัน

ซึ่งการที่ไม่สามารถตัดสินคัดเลือกนักเตะได้นั้น ทาง FA ก็เข้าใจดี และผมขอขอบคุณที่ช่วยพาทุกคนไป ในขณะเดียวกัน ก็ต้องทำให้เจ้าหน้าที่สมาคม และสต๊าฟฟ์โค้ช ต้องพลอยรับภาระหนัก และลำบากไปด้วย ผมจึงขอกล่าวคำขอบคุณพวกเขามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สำหรับตัวผมเองก็รู้สึกถึงความยากของการดูแลจัดการแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเช่นกัน

นักเตะทุกคนสู้อย่างแข็งขัน และเด็ดเดี่ยวภายใต้สภาพที่ไม่พร้อมเท่าที่ควร

น่าเสียดายที่มีทั้งนักเตะในประเทศ และนักเตะที่สร้างผลงานอยู่ในญี่ปุ่นถอนตัวไป แต่ผมเชื่อว่า หากทีมชาติไทย สร้างความแข็งแกร่งโดยขับเคลื่อนไปพร้อมกับไทยลีก ทีมชาติไทย จะสามารถยกระดับสเตตัส และกลายเป็นทีมชาติที่แข็งแกร่งได้อย่างแน่นอน

สำหรับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ผมต้องขอขอบคุณอย่างสูง สำหรับความร่วมมือของ FA, ทีมสโมสร, สปอนเซอร์ และขอขอบคุณแรงเชียร์อันล้นหลามจากแฟน. และผู้สนับสนุนที่ต่อสู้มาด้วยกันในฐานะผู้เล่นหมายเลข 12

ผมขอให้สถานการณ์โควิด-19 จบลงโดยเร็วที่สุด และขอให้ฟุต.ลีกในประเทศได้กลับมาเริ่มการแข่งขัน ก่อนจะถึงวันนั้น เรามาสู้ไปด้วยกันนะครับ