รอยเตอร์ -
นครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางทางธุรกิจของเวียดนามประกาศวันนี้ (20) ว่าจะสั่งห้ามประชาชนไม่ให้ออกจากบ้าน ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศที่หันไปใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อชะลออัตราการเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
คำสั่งที่เข้มงวดที่สุดของเวียดนามเกิดขึ้นท่ามกลางจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แม้จะประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวในเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 9 ล้านคน และเป็นศูนย์กลางการระบาดของประเทศ
“เรากำลังขอให้ประชาชนอยู่ในที่ของพวกเขา ไม่ออกไปข้างนอก บ้านแต่ละหลัง บริษัทและโรงงานแต่ละแห่ง ควรเป็นป้อมปราการป้องกันไวรัส” ฝ่าม ดึ๊ก หาย รองหัวหน้าหน่วยงานด้านโควิด-19 ของเมือง กล่าว
ส่วนรายละเอียดของคำสั่ง ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ (20) ยังไม่มีประกาศให้ทราบ
ฝ่าม ดึ๊ก หาย กล่าวว่าการควบคุมการเคลื่อนไหวควรลดการติดเชื้อและเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่มุ่งให้ความสำคัญกับการรักษาผู้ป่วยหนัก
เวียดนามได้รับเสียงชื่นชมว่าสามารถควบคุมการระบาดได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในปลายเดือนเม.ย. โดยประเทศมีผู้เสียชีวิตเพียง 35 คน และมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมไม่ถึง 3,000 คน ณ วันที่ 1 พ.ค.
แต่นับจากนั้น จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 312,000 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตเป็น 7,150 คน โดยครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อและ 80% ของผู้เสียชีวิตอยู่ในนครโฮจิมินห์
ชาวโฮจิมินห์มากกว่าครึ่งหนึ่งได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม แต่อัตราการฉีดวัคซีนของประเทศนับว่าต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย.