ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในภูมิภาคยังสร้างความวิตกกังวลให้นักลงทุน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,442.51 จุด ลดลง 23.04 จุด หรือ -0.66%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,238.45 จุด ลดลง 42.72 จุด หรือ -0.16% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,241.32 จุด ลดลง 75.01 จุด หรือ -0.30%
ภาวะการซื้อขายในภูมิภาคยังคงถูกกดดันจากปัจจัยลบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 โดยเมื่อวานนี้ ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เมืองหลวงของรัฐบางแห่งยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในประเทศ
รายงานระบุว่า ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 754 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดมีจำนวนมากกว่า 41,000 ราย
ขณะที่เขตเมืองหลวงของออสเตรเลีย (ACT) ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ได้ขยายมาตรการดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 2 ก.ย. และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 16 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่ในกรุงแคนเบอร์ราขณะนี้อยู่ที่ 83 ราย มาตรการดังกล่าวส่งผลให้กรุงแคนเบอร์ราเป็นเมืองใหญ่อีกแห่งของออสเตรเลียที่บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ เช่นเดียวกับซิดนีย์ และเมลเบิร์น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาควันนี้ นักลงทุนยังจับตาธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี และประเภท 5 ปีในเช้าวันนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65%
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (PPI) ของเกาหลีใต้และอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน ก.ค.ในวันนี้ด้วย