ตลาดคอนโดให้เช่าโตแรง เน้นพื้นที่ใหญ่ตอบฟังก์ชั่น

ตลาดคอนโดให้เช่าโตแรง เน้นพื้นที่ใหญ่ตอบฟังก์ชั่น

  • 0 ตอบ
  • 80 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Naprapats

  • *****
  • 3225
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




นายธนา ต่อสหะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มดีพีซี จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งระลอก 2 และ 3 ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมเพื่อเช่า ได้รับความสนใจและเติบโตอย่างต่อเนื่อง พบว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมามีผู้สนใจสอบถามห้องชุดให้เช่าเพิ่มขึ้น 21% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 2 สอบถามห้องชุดให้เช่าเพิ่มขึ้นสูงถึง 42% เทียบไตรมาส 2 ปี 2563

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าผู้บริโภคสนใจเช่าห้องชุดมากขึ้น ทั้งมีการปรับเปลี่ยนทำเลและพฤติกรรมในการพักอาศัย เช่น เดิมผู้เช่าสนใจห้อง 1 ห้องนอน ขนาดไม่เกิน 50 ตร.ม. เน้นพื้นที่ภายในห้องนอนมากกว่าพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ แต่ปัจจุบันผู้เช่ามองหาห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43-60 ตร.ม. ที่เน้นประโยชน์จากการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่า

“วิกฤติโควิดส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการมองหาห้องชุดเพื่อเช่า ที่เน้นปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลากหลาย ห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเป็นสถานที่ทำงานแบบเวิร์คฟรอมโฮม หรือปรับเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย ต้องการระเบียงขนาดใหญ่ เพื่อปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ห้องพัก ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบเวิร์คฟรอมโฮม อยู่ห้องพักนานขึ้น และต้องการเช่าระยะที่ยาวขึ้น หากคอนโดมีฟังก์อื่นที่น่าสนใจเพิ่มเติม เช่น เลี้ยงสัตว์ได้ จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการปล่อยเช่าได้มากยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ ลูกค้าหลักยังคงเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่มีรายได้ระดับกลาง และกลุ่มพนักงานชาวต่างชาติ (Expat) ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และมีความต้องการเปลี่ยนคอนโดหรือย้ายทำเล ซึ่งผู้เช่ายังคงให้ความสำคัญกับ “ทำเล” โดยมองหาห้องชุดทำเลกลางใจเมือง เดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ชอปปิงมอลล์

สำหรับทำเลที่ผู้เช่าให้ความสนใจและมีอัตราการเช่าเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ ย่านสุขุมวิทตอนกลางถึงตอนปลาย ลาดพร้าว-พหลโยธิน ซึ่งทำเลสุขุมวิทตอนกลาง เริ่มตั้งแต่แยกอโศกไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าพระโขนง พบว่า มีความหลากหลายของการใช้ชีวิตมากที่สุด โดยเฉพาะ “ทองหล่อ-เอกมัย” ที่มีปัจจัยหนุนเอื้อต่อการเติบโตในอนาคตมากมาย เช่น เป็นทำเลยอดนิยมในการพักอาศัยชาวต่างชาติ อีกทั้งธุรกิจในพื้นที่ยังตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ตลอดจนถนนที่กว้างถึง 6 เลน เชื่อมต่อสู่เอกมัยได้

ในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาจุดเชื่อมต่อที่บริเวณบีทีเอส สถานีทองหล่อ (วัชรพล-ทองหล่อ) และอีกจุดที่ บีทีเอสสถานีพระโขนง (พระโขนง-ท่าพระ) ช่วยเสริมศักยภาพพื้นที่ ส่งผลให้ปัจจุบันอัตราการเช่าในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง 40% ส่วนใหญ่เป็นผู้เช่าชาวต่างชาติ 70% โดยมีอัตราค่าเช่าห้องชุดขนาด 40-60 ตร.ม. เฉลี่ยอยู่ที่ 35,000 บาทต่อเดือน ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนเข้ามาลงทุนเพื่อปล่อยเช่าจำนวนมาก มีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า( Rental Yield) เฉลี่ย 4-6% (ข้อมูลปี 2564 ) สูงที่สุดเมื่อเทียบพื้นที่อื่นๆ ในทำเลสุขุมวิท

สำหรับพื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย เริ่มจากสถานีรถไฟฟ้าพระโขนงไปจนถึงสถานีแบริ่ง ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนวัยทำงานโดยมีสัดส่วนการเช่าสูง 50% จากกลุ่มผู้เช่าทั้งหมด เนื่องจากราคาปล่อยเช่าคอนโดยังไม่สูงมาก ห้องชุดขนาด 40-60 ตร.ม. มีค่าเช่าเฉลี่ย 24,000 บาทต่อเดือน

ขณะที่ย่านลาดพร้าว-พหลโยธิน เป็นอีกทำเลที่มีการเติบโตของตลาดเช่าค่อนข้างดี เนื่องจากการขยายตัวของรถไฟฟ้าสายใหม่ สายสีเขียวส่วนต่อขยาย (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ส่งผลให้มีประชากรในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งพื้นที่อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า สถานศึกษา มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางการคมนาคมใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ เป็นอีกปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ตลาดเช่าเติบโตในอนาคต ปัจจุบันราคาค่าเช่าเฉลี่ยในพื้นที่อยู่ที่ 18,000 บาทต่อเดือน ผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน นักศึกษา สำหรับอัตราผลตอบแทนในการลงทุนปล่อยเช่า เฉลี่ย 5%