หลังจากมีการเผยแพร่คลิปชาวสวนลำไยลำพูน ใช้ไม้ฟาดลูกลำไยให้ร่วงลงพื้นที่ พร้อมระบายความอัดอั้นตันใจ ทำนองว่าประสบ
ปัญหาราคาลำไยตกต่ำ จนเก็บขายไม่ได้เพราะไม่คุ้มทุน จึงนำไม้มาฟาดลูกลำไยให้ร่วงลงพื้นที่เป็นปุ๋ยแทน ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์ภาพดังกล่าวโลกโซเชียลฯต่างมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เห็นใจชาวสวนที่ประสบปัญหาราคาลำไยตกต่ำ
ล่าสุดวันนี้(18 ส.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบนายพีรพัฒน์ อยู่ท้วม อายุ49 ปี ชาวส่วนลำไย ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ที่ปรากฏอยู่ในคลิปภาพ ซึ่งได้เปิดเผยว่า วันนั้นตนออกไปขายลำไยปรากฏราคาลำไยตกลงมามาก เกรด AA เหลือกิโลกรัมละ 12 บาท เกรด A กก.ละ 4 บาท เกรด B กก.ละ 2 บาท ส่วนเกรด C ไม่รับซื้อ และหลายล้งหลายโรงงานยังหยุดรับซื้ออีกด้วย
หลังจากนั้นตนจึงมาเจราจาขอลดค่าแรงกับคนเก็บลำไย(แบบรูดร่วง)จากกิโลกรัมละ 3 บาท เหลือ 2 บาท แต่ก็ไม่เป็นผลจึงต้องยอมทนไป สุดท้ายเมื่อนำลำไยไปขายหักค่าแรงคนเก็บลำไยแล้วเหลือเพียงไม่กี่ร้อยบาท หากหักค่าปุ๋ย-ค่าแรงที่ทำมาทั้งปี ถือว่าขาดทุนอย่างมากมาย
“ตอนนั้นไม่รู้จะระบายความอัดอั้นตันใจยังไง จึงใช้ไม้ฟาดลูกลำไยให้ร่วงเป็นปุ๋ยแทน และมีคนถ่ายคลิปแล้วนำไปแชร์บนโลกโซเชียลฯจนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง”
ด้านนายฉัตรนิพัฒน์ สิงห์คำโต อายุ 55 ปี ชาวสวนลำไยเปิดเผยว่าราคาลำไยปีนี้ถือว่าตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ชนิดที่ว่าไม่เคยตกต่ำแบบนี้มาก่อน เมื่อวาน(17 ส.ค.)เอาลำไยไปขายตันครึ่ง ได้เงินมา 6,000 กว่าบาทจ่ายค่าคนงาน-ค่ารถ หักแล้วเหลือพันกว่าบาท ทั้งที่ทำมาทั้งปี ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าแรง ยังไม่ได้ ถือว่าขาดทุนอย่างหนัก
“เคยมีรอบที่แย่ที่สุดคือ ขายลำไยได้เงินมา 720 บาท หักค่าคนงานค่ารถแล้วเหลือเงินถึงตนเองแค่ 20 บาท ตอนนี้ตอนนี้เป็นหนี้เกือบล้านบาทเพราะกู้เงินมาลงทุนทำสวนหลายแปลง และทำใจแล้วเก็บได้เท่าที่เก็บได้และต้องปล่อยให้ลำไยเน่าคาต้นหลายสิบไร่เพราะไม่มีทางเลือกอื่น”
ด้านนางทิวาพร ทรงประสิทธิ์พาณิชย์ รองนายกเทศมนตรีตำบลปาไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงร่อนลำไยและยังเป็นชาวสวนลำไยเองด้วย เปิดเผยว่าปัญหาลำไยราคาตกต่ำมีทุกปี แต่ปีนี้หนักสุด ล้งทั้งอ้างโควิด อ้างไม่ได้สเปกส่งออกและอีกสารพัด กดราคา เอาลำไยเกรดดีๆแต่ไม่เคยคุยเรื่องราคา
“ที่ผ่านมาเกษตรกรถูกกดหัวมาตลอด ซ้ำปีนี้ยังเจอโควิด-19 ระบาดในพื้นที่อีก ทำให้แรงงานขาดแคลน เกษตรกรต้องปล่อยลำไยเน่าคาต้นคาสวน จึงอยากขอวิงวอนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยที่อำเภอลี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นแหล่งผลิตลำไยคุณภาพและมีชาวสวนลำไยมากเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดลำพูน ระยะยาวอยากให้รัฐบาลประกันราคาลำไยและลงมาเจรจากับผู้ส่งออกลำไยเพราะในระดับล่างไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้”