นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกรุงศรี ได้ประมาณการติดเชื้อล่าสุด (ณ วันที่ 15 ส.ค 64) จากสมมติฐานที่ผลของการล็อกดาวน์ และ วัคซีนมีประสิทธิภาพต่อการป้องกันการแพร่ระบาดที่ลดลง ผลการประมาณการพบว่าระดับสูงสุดของการติดเชื้อต่อวันในกรณีฐาน (base case) ถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงต้นเดือนก.ย.จากเดิมช่วงกลางเดือนส.ค. โดยจะมีผู้ติดเชื้อรายวันประมาณ 26,000 ราย และจะมีการปรับตัวลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปช้ากว่าที่เคยคาดไว้ครั้งก่อนหน้า
เนื่องจากข้อมูลทางสถิติพบว่า แม้วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ก็สามารถป้องกันอัตราการเสียชีวิตได้พอสมควร ดังนั้น ในระยะต่อไป จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อัตราการเสียชีวิตอาจจะลดลงได้หากมีผู้ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นถึงระดับหนึ่งแล้ว
วิจัยกรุงศรี ยังได้ปรับแบบจำลองให้สามารถคาดการณ์ถึงจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวัน และพบว่าในกรณีฐาน เราจะคงยังเห็นจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงประมาณต้นถึงกลางเดือนก.ย. (อาจสูงถึง 250-300 คนต่อวัน) ส่งผลให้ การควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบเข้มงวดอาจจะยังคงมีต่อไปจนกว่าจะพ้นกลางเดือนต.ค.นี้ ที่อัตราการเสียชีวิตเริ่มจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกรุงศรี ขอติดตามปัจจัยเพิ่มเติมในช่วงหลังจากนี้อีกครั้ง คาดว่า มาตรการล็อกดาวน์น่าจะขยายเวลาต่ออกไปจนถึงสิ้นเดือนต.ค.นี้ ดังนั้น ยังคงประมาณการจีดีพีปีนี้ ไว้ที่ 1.2% ลดลงจากเดิมคาดไว้ที่ 2% และปี2565 จาก 4%ลดลงมาอยู่ที่ 3% ซึ่งการประมาณการครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ถูกจำกัด แม้การส่งออกจะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจไทยได้ในระดับหนึ่ง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงเดือนส.ค. ซึ่งยอดติดเชื้อมากกว่าคาดว่าในเดือนส.ค.ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่จะอยู่ที่ 15,000 คนต่อวัน