นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนา
อสังหาริมทรัพย์ของไทย กล่าวว่า แม้เผชิญวิกฤติการณ์ใดๆ ก็ตาม เซ็นทรัลพัฒนา มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยไม่หยุดการลงทุนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ หรือ มิกซ์ยูส ซึ่งรอบ 40 ปีที่ผ่านมาได้มีการลงทุนขยายโครงการต่างๆ ไปทั่วประเทศ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับท้องถิ่น เป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้าง “Local Wealth” ในทุกจังหวัด ด้วยการเพิ่มการจ้างงาน ขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้ผู้ประกอบการ สร้างรายได้หมุนเวียนให้ท้องถิ่น ภายใต้การเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกชุมชน หรือ “Community at Heart”
ทั้งนี้ ได้เตรียมเปิดบริการ “เซ็นทรัล ศรีราชา” อย่างเป็นทางการวันที่ 27 ต.ค. นี้ นับเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ครบครันและใหญ่สุดในภาคตะวันออก มีการออกแบบพื้นที่ให้ใกล้ชิดธรรมชาติในรูปแบบ Semi-Outdoor
“การขยายโครงการใหม่นี้ เราได้ช่วย Business Matching กับ Local Investors เพื่อให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น พันธมิตรคู่ค้าระดับประเทศมีโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน พร้อมออก Flexible Leasing Programme เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือร้านค้าผู้เช่า ช่วยลดภาระ ผ่อนคลายความกังวลเรื่องผลประกอบการในช่วงเปิดร้านใหม่หรือในช่วงปีแรก"
ช่วงวิกฤติโควิดนี้ เซ็นทรัลพัฒนา มีการช่วยเหลือผู้เช่าและคู่ค้ารอบด้านแบบ 360 องศา ทั้งการลดและยกเว้นค่าเช่าตามสถานการณ์ การเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟู Multi-Bank 7 ธนาคาร อีกทั้งแผนการตลาดแพลตฟอร์มใหม่ เช่น The 1 Biz ซึ่งเป็น Effective CRM เพิ่มยอดขายให้ผู้เช่า และ Central Pattana Serve Application ให้ความช่วยเหลืออย่างครบวงจร
สำหรับ “เซ็นทรัล ศรีราชา” จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่บนทำเลศักยภาพ “อีอีซี” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Innovation Oasis : ล้ำอย่างลงตัว” ประกอบด้วยศูนย์การค้ารูปแบบ Semi-Outdoor แห่งแรกนอกกรุงเทพฯ คอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ อาคารสำนักงาน เอ็ดดูเคชั่น เซ็นเตอร์ และ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย Eco-Friendly Mall ใส่ใจการใช้ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโครงการ พร้อมจัดการพลังงานด้วย Giant Green Wall, Solar Rooftop นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยแนวคิด Zero Waste เปลี่ยนขยะให้เป็นศูนย์ ตอบรับไลฟ์สไตล์ด้วย “Thematic Lifestyle Mall”