การศึกษาใหม่จากสหรัฐฯ พบ'โมเดอร์นา' ป้องกันไวรัสเดลตาดีกว่า 'ไฟเซอร์'

การศึกษาใหม่จากสหรัฐฯ พบ'โมเดอร์นา' ป้องกันไวรัสเดลตาดีกว่า 'ไฟเซอร์'

  • 0 ตอบ
  • 81 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Ailie662

  • *****
  • 2858
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - การศึกษาใหม่จากสถาบันเมโย คลินิกชื่อดังของสหรัฐฯ ล่าสุดค้นพบว่าวัคซีนโมเดอร์นามีประสิทธิภาพมากกว่าวัคซีนไฟเซอร์ในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลตา แต่ทั้งคู่ยังมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการป่วยหนัก ขณะที่ไทยผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 แบบสเปรย์พ่นจมูกเริ่มการทดสอบกับมนุษย์เป็นครั้งแรก

ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานเมื่อวานนี้ (11 ส.ค.) ว่า วัคซีนโมเดอร์นาได้รับการพิจารณาว่าเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ามากในการป้องกันไวรัสเดลตาที่ร้ายกาจเมื่อเทียบกับคู่แข่งวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค อ้างอิงจากการศึกษาใหม่ที่เก็บหลักฐานจากหลายรัฐในสหรัฐฯ ของสถาบันเมโยคลินิก (Mayo Clinic)

งานวิจัยชิ้นนี้ได้ถูกนำขึ้น medRxiv ก่อนหน้าเพียร์รีวิว หรือการตรวจสอบในสัปดาห์นี้พบว่าขณะที่วัคซีน mRNA ทั้ง 2 ค่ายมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันเมื่อมกราคมต้นปีอยู่ที่ราว 90% ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของไวรัสเดลตา แต่พบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนโมเดอร์นาและวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคลดลงภายในเดือนกรกฎาคม

สื่ออิสราเอลชี้ว่า อย่างไรก็ตามยังมีวัคซีนตัวหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าอีกตัวเพราะขณะที่ประสิทธิภาพของโมเดอร์นาลดลงเหลืออยู่ที่ 76% กลับพบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคตกลงไปที่ 42% การวิจัยใช้อาสาสมัครจำนวนมากกว่า 50,000 คน

งานวิจัยของสถาบันเมโยคลินิกนั้นทำในหลายรัฐในสหรัฐฯ พบว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์นั้นจะมีโอกาสมากเป็น 2 เท่าในการติดเชื้อถึงแม้จะได้รับวัคซีนแล้วเมื่อเทียบกับของผู้ที่ได้รับวัคซีนโมเดอร์นา

“ในรัฐฟลอริดาที่กำลังประสบกับการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสเดลตา ความเสี่ยงของการติดเชื้อในเดือนกรกฎาคมหลังจากได้รับวัคซีน mRNA-1273 (วัคซีนโมเดอร์นา) ครบโดสแล้วมีราว 60% ต่ำกว่าของกลุ่มที่ได้รับวัคซีนBNT162b2 (วัคซีนไฟเซอร์)” นักวิจัยผู้ทำการศึกษาชี้

อย่างไรก็ตาม พบว่าวัคซีนทั้งสองยังมีประสิทธิภาพสูง (มากกว่า 90%) ในการป้องกันการป่วยหนัก

นักวิจัยสถาบันเมโยคลินิกสรุปว่า “การศึกษาการสังเกตชิ้นนี้ของพวกเราได้แสดงให้เห็นว่าขณะที่วัคซีน mRNA ทั้งสองมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อและโรคร้ายแรง การประเมินเพิ่มขึ้นของระบบของความแตกต่างที่ซ่อนไว้ระหว่างประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งสองเป็นต้นว่า การจัดแบ่งขนาดยา (dosing regimen) และส่วนประกอบวัคซีน นั้นเป็นปัจจัยสำคัญ

อิสราเอลขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ใช้วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคเป็นส่วนใหญ่ในการปกป้องประชาชนของตัวเอง แต่เทลอาวีฟใช้งบประมาณสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์นาจำนวนหลายล้านโดสเช่นกัน