ประจวบฯ ถกแผนเปิดเมือง เน้นต้องพร้อม 100% อย่ามุ่งหวังตัวเลขรายได้มากกว่าความปลอดภัย

ประจวบฯ ถกแผนเปิดเมือง เน้นต้องพร้อม 100% อย่ามุ่งหวังตัวเลขรายได้มากกว่าความปลอดภัย

  • 0 ตอบ
  • 77 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

hs8jai

  • *****
  • 2219
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




ประจวบคีรีขันธ์ - จ.ประจวบฯ ประชุมขับเคลื่อนแผนเปิดเมืองหัวหินรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เน้นต้องพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ บริหารความเสี่ยงได้ และประชาชนต้องได้รับวัคซีนครอบคลุมตามเป้าหมาย ส่วนผู้ประกอบการท่องเที่ยวชี้การเปิดต้องดูความพร้อม ศึกษาให้ดี ยกตัวอย่างภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อย่ามุ่งหวังตัวเลขรายได้มากกว่าความปลอดภัย

วันนี้ (11 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมนำร่องด้านการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผ่านระบบโปรแกรมซูม เพื่อเตรียมความพร้อมแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วในจังหวัดนำร่องโดยไม่ต้องกักตัวตามเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นภายใต้มาตรการป้องกันที่เคร่งครัดและอยู่ในเงื่อนไขที่ยอมรับความเสี่ยงต่อการระบาดได้



โดน น.ส.แสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเสนอผลการดำเนินงานภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ของ จ.ภูเก็ต ที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจังหวัดแรก ขณะที่พื้นที่หัวหิน-ชะอำ อยู่ในระยะที่ 3 ของเป้าหมายการเปิดการท่องเที่ยวในเดือน ต.ค.64 โดยขณะนี้มีการกำหนดแผนรองรับการเปิดเมือง 5 แผน ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนและบริหารด้านสุขอนามัยแผนพัฒนาเมืองหัวหิน-ชะอำ แผนการตลาดและการสื่อสาร แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารความเสี่ยง และแผนการสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ยอมรับการเปิดเมือง

ด้าน นายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเสนอแผนการตลาดและแผนการสื่อสารเพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว โดยระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาจะต้องมีใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วอย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทางแต่ไม่เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อที่สนามบิน เดินทางด้วยยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ เข้าพักในโรงแรมที่พักที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ โดยรอผลตรวจในห้องพัก พำนักในเขตเทศบาลเมืองหัวหินอย่างน้อย 14 คืน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ตามระยะเวลาที่พำนักในวันที่ 6-7 และ 12-13 ก่อนออกเดินทางนอกเขตจังหวัดได้



ด้านนายกรด โรจนเสถียร ประธานภาคเอกชน โครงการหัวหิน รีชาร์จ กล่าวว่า ขณะนี้มีบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้รับวัคซีนครอบคลุมแล้วเกือบร้อยละ 90 โดยภาคเอกชนผู้ประกอบการได้ร่วมสนับสนุนการจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้บุคลากรด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้รับวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 30 ของจำนวนประชากรเป้าหมาย 90,564 คน คาดการณ์ว่าหากเทศบาลเมืองหัวหินสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม 2564 จะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 100,000 คน สร้างรายได้แก่พื้นที่กว่า 1,200 ล้านบาท และมีการจ้างงานในภาคธุรกิจบริการอีกกว่า 89,000 คน โดยโครงการหัวหิน รีชาร์จ เป็นความร่วมมือของภาครัฐ โรงพยาบาลและสาธารณสุข สมาคม และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการขอความเห็นชอบจากภาครัฐให้จัดสรรวัคซีนอย่างเร่งด่วน

ด้าน นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องมีแผนการรองรับที่ชัดเจนและมีความพร้อมจริงๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และบุคลากรการท่องเที่ยวต้องได้รับวัคซีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์จึงจะสามารถเปิดการท่องเที่ยวได้ รวมทั้งจะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.เพชรบุรี ด้วยเนื่องจากหัวหิน-ชะอำ มีเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน โดยหลังจากนี้ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อขับเคลื่อนแผนการทำงานแต่ละด้าน มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม และจะมีการประชุมติดตามความพร้อมอย่างต่อเนื่อง



อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ขนาดเล็ก ร้านนวด ผู้ประกอบการขนส่ง อีกหลายสาขาที่เกี่ยวข้องธรุกิจท่องเที่ยวของหัวหิน เปิดเผยว่า ขอให้ภาครัฐ หน่วยงานเกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ท่องเที่ยวรายใหญ่อย่าด่วนตัดสินว่าเจาจะเปิดเมืองท่องเที่ยวหัวหิน ในเดือนตุลาคม จะสร้างรายได้ดังที่ดังที่ตั้งไว้ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา ต้องดูด้วยว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีตัวเลข 100 กว่ารายทุกวันนี้ ผู้เสียชีวิตสะสม 24 ราย ณ วันนี้ คลัสเตอร์การระบาดยังมีต่อเนื่องทั้งหัวหิน และอีกหลายอำเภอ

นอกจากนั้น ปัจจุบันนี้โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดกิจการมานานหลานเดือน บางแห่งปิดตั้งแต่ปีที่ผ่านมาปัจจุบันยังเปิดไม่ได้เพราะแม้แต่คนไทยก็ไม่มา ตราบใดการติดเชื้อยังมีอยู่ทุกวัน ประชาชนบางกลุ่มที่ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำ ยังคงเดือดร้อนกันอยู่ วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ควรหาข้อมูลให้รอบด้าน เปิดแล้วใครได้ประโยชน์ ควรดูจากภูเก็ต ทำอย่างไรประโยชน์ที่จะได้รับควรตกอยู่กับทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อยากฝากให้ไตร่ตรองให้รอบคอบ เอาให้โควิด-19 หมดลงและประชาชนปลอดภัยน่าจะดีกว่า ตอนนี้เหลืออีก 4 เดือนก็จะเข้า 2 ปีที่ได้รับผลกระทบ