กรณี "
เงินเยียวยา" แรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร , นครปฐม , สมุทรสาคร , ปทุมธานี , นนทบุรี , สมุทรปราการ , สงขลา , ยะลา , ปัตตานี , นราธิวาส , พระนครศรีอยุธยา , ชลบุรี และ ฉะเชิงเทรา ที่ประกาศ ล็อกดาวน์ โดยประกันสังคม เปิดลงทะเบียนผ่าน
www.sso.go.th ตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยา ผ่านออนไลน์ คลิก หากได้รับสิทธิ ต้องผูกพร้อมเพย์ กับบัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประชาชน เพื่อรับการโอนเงิน ซึ่งทางกระทรวงแรงงานเริ่มจ่าย "เงินเยียวยา" ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.64 เป็นต้นมานั้น
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 10 จังหวัด 9 กิจการ เป็นที่น่าพอใจ จากรายงานของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พบว่า โอนเงินแล้ว 2,434,182 ราย เป็นเงิน 6,085,0000,000 บาท ซึ่งไม่มีอะไรติดขัด มีเพียงผู้ประกันตนประมาณ 200,000 ราย ที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการให้ผู้พร้อมเพย์กับบัตรประชาชนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เพื่อที่จะเริ่มดำเนินการโอนเงินในวันที่ 13 สิงหาคมนี้
3 จังหวัดเพิ่มเติม ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา จะโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคมนี้
ผู้ประกันตน ม.33
รับเงินเยียวยา 2 ส่วน คือ เงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง สูงสุด 7,500 บ. และเงินชดเชยเพิ่มเติมอีก 2,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือนคือในเดือน ก.ค. - ส.ค. รวม 5,000 บาท โดยจะดำเนินการทยอยโอนเงินผ่าน "พร้อมเพย์"
นายจ้าง ม.33
รับเงินเยียวตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุด 200 คน
สำหรับ นายจ้างที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับค่าชดเชยเยียวยา สามารถยื่นความประสงค์ขอรับเงินได้ที่ ระบบ e – service ของประกันสังคม "
www.sso.go.th" จากนั้นปริ้นข้อมูลแบบรับการ "เงินเยียวยา" แล้วกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์ม ส่งกลับมาให้ประกันสังคม
นายจ้างที่เป็นนิติบุคคล
ต้องแนบแบบแสดงความจำนง, สำเนาบัญชีธนาคาร,หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจลงนามแทน) กลับมาด้วย
นายจ้างบุคคลธรรมดา
แบบแสดงความจำนง, ผูกบัญชีธนาคารพร้อมเพย์ (ผูกเลขบัตรประชาชนเท่านั้น) เพื่อประกันสังคมจะได้โอนเงินให้โดยเร็ว
สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ขณะนี้ "ประกันสังคม" อยู่ระหว่างประมวลผลข้อมูล