'เลสเตอร์' ซัดจุดโทษท้ายเกม เฉือน 'เรือใบ' คว้าแชมป์ 'คอมมิวนิตี ชิลด์'

'เลสเตอร์' ซัดจุดโทษท้ายเกม เฉือน 'เรือใบ' คว้าแชมป์ 'คอมมิวนิตี ชิลด์'

  • 0 ตอบ
  • 77 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

hs8jai

  • *****
  • 2219
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




ในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ ดวลกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก ลงเตะกันที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน

ในเกมนี้ เลสเตอร์จัดตัวแบบเอาจริง นำโดยตัวหลักอย่าง "เจมี วาร์ดี" "เจมส์ แมดดิสัน" "อโยเซ เปเรซ" "ยูริ ตีเลอมองส์" และ "ฮาร์วีย์ บาร์นส" ส่วน แมนฯ ซิตี จัดตัวผสมตัวจริงกับสำรอง นำโดย "เฟร์รัน ตอร์เรส" "ริยาด มาห์เรซ" "อิลคาย กุนโดกัน" และใช้ "แซก สเตฟเฟน" เฝ้าเสาประตู

รูปเกมส่วนใหญ่ ทั้งสองทีมเน้นความแน่นอน ไม่มีฝ่ายไหนเปิดเกมบุกเต็มตัว โดยเรือใบสีฟ้าเป็นฝ่ายครอง.ได้ส่วนใหญ่และมีโอกาสทำประตูมากกว่า แต่ส่วนใหญ่ไม่เข้าเป้า ขณะที่เลสเตอร์แม้โอกาสยิงน้อยกว่าแต่ส่องเข้ากรอบแบบได้ลุ้นกว่า


นาที 65 ถึงเวลาที่แฟน.ซิตีรอคอย เมื่อ แจ็ค กรีลิช นักเตะใหม่ที่ย้ายจาก แอสตัน วิลลา ด้วยสถิติค่าตัวสูงสุดในสหราชอาณาจักร 100 ล้านปอนด์ ได้ลงสนามมาแทน ซามูเอล เอโดซี


- แจ็ค กรีลิช ในยูนิฟอร์มแมนฯ ซิตี ลงสนามเป็นตัวสำรอง -


นาที 87 นาธาน อาเก เล่นพลาดหน้าประตูตัวเองเปิดช่องให้ เคเลชี อิเฮียนาโช เข้าปะทะ แล้ว.ไหลมาให้ แพตสัน ดากา โฉบเข้ายิงติดเซฟ แซก สเตฟเฟน

อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินตัดสินใจเป่าฟาวล์ย้อนหลังจังหวะที่อาเกปะทะอิเฮียนาโช และให้จุดโทษแก่เลสเตอร์


จากนั้น อิเฮียนาโช รับหน้าที่สังหารไม่พลาด และกลายเป็นประตูชัยให้เลสเตอร์เฉือนชนะไป 1-0 ทำให้ทัพจิ้งจอกคว้าแชมป์รายการการกุศลนี้เป็นสมัยที่ 2 ต่อจากเมื่อปี 1978 ส่วนแมนฯ ซิตี ยังอยู่ที่ 6 สมัยต่อไป