เมินเสียงวิงวอน WHO สหรัฐฯเตรียมฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น

เมินเสียงวิงวอน WHO สหรัฐฯเตรียมฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น

  • 0 ตอบ
  • 83 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Jessicas

  • *****
  • 2373
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




สหรัฐฯกำลังทำงานในด้านฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นแก่อเมริกันชนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดเผยของนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับสูงของสหัฐฯในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.)

อเมริกากำลังเดินตามอย่างเยอรมนี ฝรั่งเศสและอิสราเอล ในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพิกเฉยต่อเสียงวิงวอนขององค์การอนามัยโลก(WHO) ที่ขอให้ระงับไว้ชั่วคราวจนกว่าประชากรทั่วโลกจะเข้าถึงวัคซีนเข็มแรกมากกว่านี้

คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐฯจำเป็นต้องอนุมัติวัคซีนโควิด-19 แบบเต็มขั้นหรือไม่ก็ปรับแก้คำแนะนำสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินเสียก่อน แล้วเจ้าหน้าที่ถึงจะสามารถออกคำแนะนำฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างไรก็ตามศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) กำลังหาทางเปิดทางฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชาชน ภายใต้กรณีแวดล้อมบางประการเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

"มันสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา ในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่บุคคลเหล่านั้นและตอนนี้เรากำลังทำงานในเรื่องนี้" เฟาซีกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ทางไกลกับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่าบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแออาจไม่ได้รับการปกป้องอย่างพอเพียงจากวัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

เฟาซี เชื่อว่าสถานการณ์เคสผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในสหรัฐฯ ผลจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา สามารถพลิกผันได้ ด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กระตือรือร้นอย่างที่สุดในความพยายามโน้มน้าวอเมริกันชนบางส่วน ในนั้นรวมถึงพวกคนที่ไม่ไว้วางใจรัฐบาล ให้เข้ารับวัคซีน ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างหนักของตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก

ทำเนียบขาวระบุในวันพฤหัสบดี(5ส.ค.) ว่า 7 รัฐของสหรัฐฯ ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่ำที่สุด มีเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล คิดเป็นเกือบราวๆครึ่งหนึ่งของเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ในสัปดาห์ที่แล้ว

รัฐเหล่านั้นประกอบด้วย ฟลอริดา เทกซัส มิสซูรี อาร์คันซอ ลุยเซียนา แอละแบมาและมิสซิสซิปปี

แพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯระบุว่าเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 43% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 39% ขณะที่จากการนับของรอยเตอร์พบว่าสหรัฐฯมีเคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกินกว่า 100,000 คนในวันพุธ(4ส.ค.) สูงที่สุดในรอบ 6 เดือนเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามขณะเดียวกันมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนราว 864,000 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฏาคม

เจฟ ไซนส์ ผู้ประสานงานคณะทำงานเฉพาะกิจโควิด-19 ของทำเนียบขาว ระบุว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดน สนับสนุนภาคธุรกิจสหรัฐฯและสถาบันอื่นๆ บังคับพนักงานฉีดวัคซีน

นอกจากนี้แล้วเขายังเผยว่าทางทำเนียบขาวกำลังพิจารณากำหนดให้ชาวต่างชาติเกือบทุกคนที่จะเดินทางเข้าสหรัฐฯ ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบเสียก่อน ส่วนหนึ่งในแผนกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวและยังไม่มีการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆในทันทีทันใด

(ที่มา:รอยเตอร์)