เลขานุการ บริษัท
ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) แจงตลาดหลักทรัพย์ ยันไม่ได้ให้ข้อมูลการทำสัญญา หรือจะทำสัญญาซื้อวัคซีนไฟเซอร์ ร่วมกับกระทรวงกลาโหม และไม่ได้ใช้เงินสด เงินกู้ หรือทรัพย์สินของบริษัทฯ วางมัดจำหรือค่าปรับมัดจำวัคซีน อีกด้านไม่สามารถเปิดเผยจำนวนวัคซีน และระยะเวลาการนำเข้าได้ อ้างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
วันนี้ (5 ส.ค.) น.ส.สุวดี พันธุ์พานิช เลขานุการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เทคโนโลยี mRNA (เพิ่มเติม) ระบุว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) มีหนังสือลงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 โดยใช้อำนาจมาตรา 58(1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (“พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ”) ให้ผู้บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ชี้แจงข้อมูลและนำส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และเปิดเผยคำชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ในหนังสือ
บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจาก สำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยจะดำเนินการชี้แจงโดยละเอียดตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยขอให้ข้อมูลเบื้องต้นได้ดังนี้
1. บริษัทฯ “ไม่ได้ให้ข้อมูลการทำสัญญาหรือจะทำสัญญาร่วมกับกระทรวงกลาโหม” ตามที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐเพื่อร่วมกันนำเข้าวัคซีนจริง โดยจะเปิดเป็นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้สำนักงาน ก.ล.ต.
2. บริษัทฯ ไม่ได้ใช้เงินสด เงินกู้ หรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ในการวางมัดจำหรือค่าปรับมัดจำวัคซีน
3. วัคซีนจำนวน 20 ล้านโดส ที่ได้มีการเจรจากับผู้แทนจำหน่ายแล้วนั้น ยังไม่มีการลงนามสั่งซื้อจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามระเบียบของรัฐ แต่บริษัทฯ ยังไม่ละทิ้งความพยายาม โดยจำนวนวัคซีน และระยะเวลาการนำเข้าวัคซีนไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
อนึ่ง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า “แม้บริษัทฯ ไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ในการดำเนินการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ตามกำหนดของรัฐ” แต่เป็นการ “ทำหน้าที่ในฐานะเอกชนและพลเมือง” ที่ไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์การระบาดของโรคที่มีในปัจจุบัน เพื่อช่วยให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ราคาหุ้น THG วานนี้ (4 ก.ค.) ปิดตลาดอยู่ที่ราคา 28.25 บาท ลดลงมา 2.50 บาท หรือ 8.13% โดยพบว่าเปิดตลาดราคาหุ้นดิ่งลงมาจากราคา 30.75 บาท ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นมา