กระบี่ลุ้นไตรมาส 4 เปิดรับทัวริสต์โดยตรง แอร์ไลน์จองสลอต 66 ไฟลต์ต่อสัปดาห์

กระบี่ลุ้นไตรมาส 4 เปิดรับทัวริสต์โดยตรง แอร์ไลน์จองสลอต 66 ไฟลต์ต่อสัปดาห์

  • 0 ตอบ
  • 69 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kaidee20

  • *****
  • 2826
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 





เดินทางเชื่อมต่อจากโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ภายใต้สูตร 7+7 ด้วยการท่องเที่ยวและพำนักในภูเก็ตแบบไม่กักตัวครบ 7 คืนแรกก่อน ถึงจะสามารถเดินทางสู่ 3 พื้นที่นำร่องในกระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานีช่วง 7 คืนหลัง เมื่อพำนักครบ 14 คืนถึงเดินทางไปยังพื้นที่อื่นในประเทศไทยได้

ชรินทิพย์ ตียาภรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการท่องเที่ยวเชื่อมจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เข้า 3 เกาะนำร่องดังกล่าวของ จ.กระบี่ ภายใต้สูตร 7+7 ต้องขอใบอนุญาตการเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry : COE) อีกรูปแบบใหม่ คาดเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ากระบี่ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ขอ COE ประสงค์ท่องเที่ยวโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แบบไม่กักตัวอย่างน้อย 14 คืนก่อนถึงจะสามารถเดินทางไปเที่ยวพื้นที่อื่นในไทยได้นั้น ต้องพำนักในภูเก็ตให้ครบตามกำหนดก่อน ไม่สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยัง 3 เกาะใน จ.กระบี่ได้ทันทีหลังพำนักในภูเก็ตครบ 7 คืนแรก ทั้งนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มายัง 3 เกาะ จ.กระบี่ ตั้งแต่กลางเดือน ส.ค.นี้

“สภาฯประเมินว่าในช่วงเดือน ส.ค.หรือเดือนแรกของการเริ่มต้นโครงการกระบี่ อีเวน มอร์ อะเมซิ่ง จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเชื่อมโยงจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มาเที่ยว 3 เกาะไม่ต่ำกว่า 500 คน พำนัก 7 คืน ใช้จ่ายเฉลี่ย 5,000 บาทต่อคืน สร้างรายได้ 17.5 ล้านบาท แต่ก็หวังว่าจะสามารถผลักดันยอดได้ถึง 30 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 2 เดือนแรก (ส.ค.-ก.ย.64) ตั้งเป้าขอมีนักท่องเที่ยวมากระบี่ 10% จากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”

ส่วนไตรมาส 4 นี้ หวังว่าจะสามารถเปิดพื้นที่นำร่องใน จ.กระบี่ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วได้โดยตรง! ไม่ต้องผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์หรือสมุย พลัส โมเดล เนื่องจากในวันที่ 31 ต.ค.นี้ สนามบินนานาชาติกระบี่เตรียมเปิดอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ ปัจจุบันได้รับรายงานว่ามีสายการบินสนใจทำการบินระหว่างประเทศ เช่น จากจีน สิงคโปร์ และกลุ่มประเทศนอร์ดิก จองสลอต (ตารางบิน) เข้ากระบี่มาแล้วกว่า 66 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ใกล้เคียงกับจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศเข้ากระบี่ในช่วงไฮซีซั่นปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563 ก่อนเจอวิกฤติโควิด-19


“แม้ตอนนี้จะมีดีมานด์จากสายการบินสนใจทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศตรงเข้ากระบี่มาแล้ว แต่สถานการณ์ท่องเที่ยวยังขึ้นกับปัจจัยภายในและภายนอก ณ ขณะนั้นด้วย”

ศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การเปิดทั้งจังหวัดกระบี่เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ แต่ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนแค่ 22% ของประชากรทั้งหมด ยังต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้มาก จึงอยากให้เร่งกระจายวัคซีนแก่ จ.กระบี่ ซึ่งพึ่งพารายได้จากภาคการท่องเที่ยวมากถึง 50% ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นภาคเกษตรกรรม

ด้านประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ ฉบับที่ 35/2564 ล่าสุดได้ยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้า จ.กระบี่ ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองครบตามจำนวน หรือแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม ไม่น้อยกว่า 14 วัน และต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ Rapid Antigen Test ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง สำหรับผู้ที่มีอายุ 6-18 ปีที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีน ต้องตรวจหาเชื้อด้วย 1 ใน 2 วิธีดังกล่าว ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ยกเว้นเด็กอายุไม่เกิน 5 ปี ไม่ต้องมีผลการตรวจหาเชื้อ โดยทั้งหมดต้องลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ที่จังหวัดกระบี่กำหนด (QT14) และมีเอกสารรับรองจากต้นทางเพื่อรายงานตัวที่ด่านปลายทางของ จ.กระบี่

ส่วนการจัดทำ “แผนเผชิญเหตุ” ของจังหวัดกระบี่เพื่อรองรับการระบาดของโควิด-19 มีหลักเกณฑ์ระบุไว้ว่า หากมีจำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่เกิน 70 รายต่อสัปดาห์ และมีอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยเกิน 80% ของจำนวนเตียงทั้งหมดซึ่งปัจจุบันมี 610 เตียง และกำลังจะมีเตียงที่โรงพยาบาลสนามแห่งใหม่อีก 400 เตียงซึ่งจะเปิดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า รวมเป็น 1,100 เตียง หากเข้าเกณฑ์ดังกล่าวต้องพิจารณาทบทวน ชะลอหรือยุติโครงการฯ