บริษัทเทสลา อิงค์ หรือ Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่มีมูลค่าแบรนด์เป็นอันดับ 1 ของโลก รายงานงบการเงินงวดไตรมาส 2/2564 เผยมีกำไรสุทธิเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ เป็นไตรมาสแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งขณะเดียวกันกลับขาดทุนจากการถือครอง
บิทคอยน์กว่า 23 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยประมาณ 758 ล้านบาท
จากการรายงานของ Cryptopotato ระบุถึงงบการเงินงวดบัญชี 2/2564 ของ Tesla, Inc ซึ่งถึงแม้ว่าบริษัทจะมีกำไรจากผลประกอบการในส่วนของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ แต่ในทางกลับการด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Crypto กลับพบว่า มีการขาดทุนจาก Bitcoin ถึงกว่า 758 ล้านบาท หรือ 23 ล้านดอลลาร์ จากตลาดขาลงในช่วงไตรมาส 2/2564 โดยบริษัทจัดประเภทของคริปโทเคอร์เรนซีในทางบัญชีเป็น "สินทรัพย์ไม่มีตัวตน ที่ไม่มีกำหนดอายุ"
ทังนี้ตามมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา นักบัญชีต้องบันทึกมูลค่าการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลของตน ณ เวลาที่จัดหา หากคริปโทเคอร์เรนซีราคาปรับขึ้นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตราบใดที่บริษัทยังคงถือไว้อยู่ ธุรกิจจะบันทึกรายการได้เฉพาะกรณีขายสินทรัพย์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาปรับลดลงบริษัทต้องบันทึกการลดลงของเงินลงทุน เป็นการด้อยค่าของสินทรัพย์ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ อีลอน มัสก์ CEO ของ TESLA ได้กลับลำออกมายอมรับว่าลูกค้าสามารถชำระค่าสินค้าและบริการของเทสลาด้วยเหรียญบิทคอยน์ได้อีกครั้ง หากเหรียญคริปโตนั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากพอ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาได้ปฏิเสธการรับชำระด้วยเหรียญบิทคอยน์โดยให้เหตุผลว่าบิทคอยน์นั้นใช้พลังงานจำนวนมากและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์