YLG ชี้ทองคำกลับมาแข็งแกร่งทั้งระยะสั้น-ยาว รับข่าวดีเฟดย้ำยังไม่เร่งขึ้นอัตราดอกบี้ย

YLG ชี้ทองคำกลับมาแข็งแกร่งทั้งระยะสั้น-ยาว รับข่าวดีเฟดย้ำยังไม่เร่งขึ้นอัตราดอกบี้ย

  • 0 ตอบ
  • 78 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

hs8jai

  • *****
  • 2219
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 





นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเริ่มกลับมาเป็นสัญญาณบวกทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค หลังจากได้รับปัจจัยหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ออกมาย้ำชัดว่าจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป โดยเฟดจะไม่รีบร้อนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและไม่รีบร้อนลดวงเงินทำ QE เพราะแม้เศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้น แต่ตัวเลขการฟื้นตัวเศรษฐกิจยังไม่เป็นไปตามเป้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นการเพิ่มขึ้นชั่วคราว

ปัจจัยนี้สนับสนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสามารถแตะจุดสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ที่ 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากที่ก่อนนี้ปรับลดลงจากปัจจัยความกังวลเรื่องการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดจนปรับลดลงไปที่ 1,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ล่าสุดก็สามารถปรับตัวทะลุแนวต้าน 1,818 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และมีแรงซื้อต่อเนื่องจนสามารถทำจุดสูงสุดดังกล่าวได้ ทั้งนี้ จากถ้อยแถลงของเฟด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง สวนทางกับสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้น

สำหรับปัจจัยที่น่าติดตามหากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาราคาทองคำจะยังคงปรับขึ้นตามปัจจัยพื้นฐาน ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคสามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน และ 200 วัน จึงมีมุมมองเชิงบวกระยะยาวมากขึ้น 

หากราคาทองคำยังทรงตัวได้เช่นนี้โอกาสในการปรับตัวขึ้นก็มีมากขึ้น ส่วนระยะสั้นก็เป็นสัญญาณการแกว่งตัวขึ้น และทดสอบแนวต้าน 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งหลังจากนี้หากมีการปรับตัวลดลงไป แต่สามารถยืนเหนือ 1,812-1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,100-27,900 บาทต่อบาททองคำ ได้ ก็ถือว่ายังเป็นสัญญาณที่ดี ใช้เป็นจังหวะซื้อได้

และหากผ่าน 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,450 บาทต่อบาททองคำ มีโอกาสไปทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยา 1,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,700 บาทต่อบาททองคำ

อย่างไรก็ดีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงจากการขายทำกำไรใกล้ๆ แนวต้าน 1,835-1,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ยังมีอยู่ แต่หากไม่หลุด 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,900 บาทต่อบาททองคำยังไม่น่ากังวล