ศึกล่าลายเซ็น 'เมสซี' ส่อง 6 ทีมเต็ง พร้อมเปย์ค่าเหนื่อย

ศึกล่าลายเซ็น 'เมสซี' ส่อง 6 ทีมเต็ง พร้อมเปย์ค่าเหนื่อย

  • 0 ตอบ
  • 86 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Hanako5

  • *****
  • 1982
    • บุคคลทั่วไป
    • ดูรายละเอียด
  • ชื่อ-นามสกุล: -
  • เบอร์ติดต่อ/โทรศัพท์มือถือ: -
  • ที่อยู่/สถานที่ติดต่อ: -
  • ระบุจังหวัด: -
  • ดูรายละเอียด
  • ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)

     
   
 




จากข่าวช็อกแฟน.ทั่วโลก เมื่อสโมสรบาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกาสเปน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (5 ส.ค.) ว่า ถึงแม้ทั้งสโมสรและ "ลิโอเนล เมสซี" ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา ได้บรรลุข้อตกลงเรื่องสัญญาฉบับใหม่และมีความประสงค์ชัดเจนว่าต้องการเซ็นสัญญากัน แต่สุดท้ายสิ่งนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากติดขัดเรื่องการเงินและกฎการลงทะเบียนผู้เล่นของลาลีกา

"ด้วยเหตุนี้ เมสซีจึงไม่สามารถอยู่กับบาร์เซโลนาได้อีกต่อไป ทั้งสองฝ่ายรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ความต้องการของทั้งผู้เล่นและสโมสร ไม่สามารถเกิดขึ้นจริงได้ สโมสรขออวยพรให้เมสซีโชคดีกับเส้นทางค้าแข้งกับต้นสังกัดใหม่" แถลงการณ์สโมสรบาร์เซโลนา ระบุ

อันที่จริง บาร์เซโลนาบรรลุสัญญาฉบับใหม่กับเมสซียาวถึงปี 2026 ไปแล้ว แต่ด้วยค่าเหนื่อยหลายแสนยูโรต่อสัปดาห์ของเมสซี จะทำให้บาร์เซโลนาใช้เงินเกินกว่าที่ลาลีกากำหนดไว้ จึงไม่ได้รับการอนุมัติจากลาลีกาให้เซ็นสัญญากัน แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกันไว้แล้วก็ตาม

ดาวเตะระดับโลก วัย 34 ปี เซ็นสัญญาฉบับแรกกับบาร์เซโลนาในปี 2000 ขณะอายุเพียง 13 ปี และลงเล่นให้สโมสรทุกรายการรวม 778 นัด ยิงได้ 672 ประตู และมีส่วนช่วยบาร์ซาคว้าแชมป์รวม 35 รายการ จนกระทั่งสิ้นสุดสัญญาฉบับเดิมเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ขณะที่บรรดาสโมสรใหญ่จากหลายประเทศต่างแสดงความสนใจดึงตัวแข้งซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนตินา ที่กลายเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ที่สามารถย้ายทีมได้แบบไม่มีค่าตัว และจะเป็นการย้ายทีมครั้งแรกในเส้นทางอาชีพของเมสซีด้วย


มีรายงานว่า ค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่ที่บาร์ซาตกลงกับเมสซีได้แล้วแต่สุดท้ายล่มไปนั้น สูงถึงประมาณ 70 ล้านยูโรต่อปี หรือคิดเป็นราว 1.13 ล้านยูโรต่อสัปดาห์เลยทีเดียว

ดังนั้น หากประเมินจากความเป็นไปได้ ณ เวลานี้ มีอยู่ 6 สโมสรที่อาจมีศักยภาพและเงินทุนมากพอที่จะเป็นจุดหมายต่อไปของดาวเตะวัย 34 ปี

1. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (เปแอสเช)

ณ ขณะนี้ เปแอสเช ถือเป็นเต็งอันดับ 1 ที่จะได้เมสซีไปร่วมทีม เพราะมีอำนาจเงินเหนือกว่าทีมใหญ่อื่น ๆ

ยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศสสามารถเสนอโอกาสให้เมสซีได้ลงเล่นร่วมกับนักเตะพรสวรรค์มากมาย หลังจากคว้าตัวผู้เล่นใหม่อย่าง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์เลือดดัตช์, จานลุยจิ ดอนนารุมมา นายด่านทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ยูโร 2020 และเซอร์จิโอ รามอส ปราการหลังจอมเก๋าชาวสเปน


ขณะเดียวกัน เปแอสเชอาจมีภาษีเหนือกว่าทีมอื่น ๆ ตรงที่มีนักเตะชื่อ “เนย์มาร์” แข้งชาวบราซิลที่สนิทกับเมสซีตั้งแต่สมัยเล่นด้วยกันที่บาร์เซโลนา และหากเมสซีย้ายมาประสานงานกับเนย์มาร์อีกครั้ง เปแอสเชจะกลายเป็น “เต็ง 1” คว้าแชมป์ “ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก” ฤดูกาล 2021/22 โดยทันที

2. แมนเชสเตอร์ ซิตี

การได้กลับมาร่วมงานกับ “เปป กวาร์ดิโอลา” อีกครั้งอาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับ “เรือใบสีฟ้า” ที่จะได้ลายเซ็นจอมทัพเลือดอาร์เจนไตน์มาครอง เพราะกุนซือชาวสเปนและเมสซีต่างชื่นชมและให้ความเคารพกัน หลังทั้งคู่เคยร่วมงานที่บาร์เซโลนายุคที่ประสบความสำเร็จที่สุด

ช่วงปี 2008-2012 บาร์ซาภายใต้การคุมทีมของกวาร์ดิโอลาและมีเมสซีเป็นแกนหลักในแนวรุก โกยถ้วยแชมป์รวม 14 รายการ ถือเป็นยุคที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรคาตาลัน

ปัจจุบัน กวาร์ดิโอลาซึ่งเป็นผู้จัดการทีมแมนฯ ซิตี กำลังเดินหน้าแผนล่าตัว “แฮร์รี เคน” ดาวยิงทีมชาติอังกฤษจากท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส หลังเพิ่งกระชาก “แจ็ค กรีลิช” ตัวรุกเลือดผู้ดีจากแอสตัน วิลลา ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความเป็นไปได้ที่ทีมเรือใบสีฟ้าจะเสริมทัพด้วยการเซ็นสัญญาเมสซีอีกคนนั้น “เหลือน้อยมาก”


- เมสซีฟังแท็กติกจากกวาร์ดิโอลา สมัยยังร่วมงานกันในถิ่นคัมป์นูเมื่อปี 2010 -

ล่าสุด กวาร์ดิโอลายืนยันแล้วว่า แมนฯ ซิตีจะไม่เซ็นสัญญากับเมสซี เพราะทีมเพิ่งทุ่มเงินซื้อกรีลิชและมอบหมายเลข 10 ให้กับแข้งอังกฤษรายนี้ไปแล้ว

“ก่อนหน้านี้คิดว่าเขา (เมสซี) จะอยู่กับบาร์ซาต่อ ดังนั้น เมสซีจึงไม่อยู่ในแผนของเราตอนนี้”

3. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 “ปิศาจแดง” คู่แค้นร่วมเมืองของแมนฯ ซิตี ก็มีโอกาสร่วมวงล่าลายเซ็นของเมสซีเช่นกัน เพราะความเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายผู้เล่นที่ผ่านมา พิสูจน์ให้ทุกทีมเห็นแล้วว่า แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่มีความมั่นคงทางการเงินแถวหน้าของโลก

ถึงแม้ “โอเล กุนนาร์ โซลชาร์” กุนซือชาวนอร์เวย์ อาจจะต้องเปลี่ยนระบบการเล่นของทีม เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา แต่ก็น่าจะคุ้มค่าไม่น้อยหากคว้าตัวเมสซีมาร่วมทัพได้ เพราะนอกจากจะได้ตัดหน้าคู่แข่งร่วมเมืองแล้ว ยังเพิ่มโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013 ด้วย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดูเหมือนว่าตำแหน่ง “มิดฟิลด์ตัวรับ” เป็นจุดที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องการเสริมมากกว่าแนวรุก หลังเพิ่งได้ตัว “เจดอน ซานโช” ปีกจอมเทคนิคทีมชาติอังกฤษจาก “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์” ที่ตามทาบทามตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาลที่แล้ว

วันนี้! เช็คเงินเยียวยา 'ประกันสังคม ม.33' ไม่เข้าบัญชี เช็กสาเหตุ 'www.sso.go.th'
ก่อนซื้อทำอย่างไร เมื่อ 'ฟ้าทะลายโจร' ขาดตลาด ราคาพุ่ง เจอของปลอม
อาคาร 100 ปี 'วังค้างคาว' เคยเป็นของใครมาแล้วบ้าง? ชวนย้อนรอยก่อนเปลี่ยนมือ
4. เชลซี

“สิงห์บลู” สโมสรดังแห่งลอนดอน เจ้าของแชมป์ยุโรปปีล่าสุด เป็นทีมที่ 3 จากพรีเมียร์ลีกที่สามารถดึงตัวดาวเตะระดับโลกอย่างเมสซีมาสวมยูนิฟอร์มได้ เพราะมีเงินทุนสนับสนุนหลายพันล้านจาก “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรชาวรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เชลซีกำลังโฟกัสกับแผนคว้าตัว “โรเมลู ลูกากู” กองหน้าชาวเบลเยียมด้วยค่าตัวสถิติสโมสร แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจเบนเข็มมาที่แข้งอาร์เจนไตน์ได้เช่นกัน

หากได้เมสซีมาร่วมทัพ น่าจะช่วยเพิ่มสถิติถล่มประตูให้กับเชลซีได้ตามที่ “โธมัส ทูเคิล” กุนซือชาวเยอรมันต้องการ ด้วยผลงานซัลโวกว่า 30 ประตูให้กับบาร์ซาในทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

5. ยูเวนตุส

การดึงตัว เมสซี มาประสานงานร่วมกับ “คริสเตียโน โรนัลโด” แข้งระดับโลกชาวโปรตุเกส น่าจะเป็นเกมรุกในฝันของแฟน.หลายคน และ “ยูเวนตุส” ยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช เซเรียอา ก็มีศักยภาพมากพอที่จะทำเช่นนั้นได้

ทีมม้าลายแต่งตั้ง “แม็กซ์ อัลเลกรี” ยอดกุนซือชาวอิตาลีคุมทัพรอบที่สองเมื่อไม่นานนี้ และชื่อชั้นของอัลเลกรี อาจช่วยดึงดูดให้เมสซีอยากมาร่วมงานกับหนึ่งในผู้จัดการทีมแถวหน้าของวงการลูกหนัง

หลังจากทำผลงานน่าผิดหวังในฤดูกาลที่แล้ว ยูเวนตุสจึงต้องการเสริมทัพที่แข็งแกร่งอยู่แล้วให้น่าเกรงขามยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมสู้ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกในฤดูกาลที่จะถึงนี้

6. อินเตอร์ ไมอามี

ถึงแม้ “เมเจอร์ลีก” ในสหรัฐ อาจเป็นจุดหมายปลายทางที่เมสซีต้องการไปค้าแข้งน้อยที่สุด แต่ก่อนหน้านี้ สื่อหลายสำนักรายงานว่า กัปตันทีมฟ้าขาวมีแผนย้ายไปฟาดแข้งในอเมริกาก่อนแขวนสตั๊ด

เมื่อดูจากชื่อชั้นของทีมในเมเจอร์ลีก ดูเหมือนว่า “อินเตอร์ ไมอามี” จะเป็นทีมจากเมเจอร์ลีกที่ถูกโยงกับการย้ายทีมของเมสซีมากที่สุด เนื่องจาก “เดวิด เบ็คแฮม” อดีตแข้งซูเปอร์สตาร์ชาวอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของสโมสรร่วมของอินเตอร์ ไมอามี กำลังพยายามสร้างทีมให้พร้อมสำหรับการไล่ล่าแชมป์หลายรายการ


จากรายชื่อทั้ง 6 ทีมเหล่านี้ หลายฝ่ายคาดว่า เปแอสเช มีโอกาสมากที่สุดในการดึงตัวเมสซีไปร่วมทัพ และล่าสุดตัวแทนทั้งสองฝ่ายเปิดเจรจากันแล้ว

ฟาบริซิโอ โรมาโน เหยี่ยวข่าวกีฬาชาวอิตาลีซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูง รายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ว่า เปแอสเช มั่นใจมากที่จะได้เมสซีไปร่วมทีม หลังจากเปิดโต๊ะเจรจากับนักเตะโดยตรง อีกทั้งมีความคืบหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้ในไม่ช้า